นายกรัฐมนตรีเป็นประธานบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ข่าวทั่วไป Monday February 27, 2017 14:17 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

วันนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2560) ณ บริเวณท้องสนามหลวงด้านทิศใต้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีบวงสรวงการก่อสร้าง และยกเสาเอกพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมี พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศและบูรณปฏิสังขรณ์ ราชรถและพระยานมาศ ฯ คณะกรรมการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วย คณะรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ข้าราชการกรมศิลปากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

ทั้งนี้ ในเวลา 09.45 น. นายกรัฐมนตรี ประธานในพิธี จุดธูป เทียน บูชาเครื่องบวงสรวง โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ อ่านโองการบวงสรวงฯ รดน้ำเทพมนต์ และเจิมเสา จากนั้น เชิญประธานในพิธี สรงน้ำ ปิดทอง และผูกผ้าแพร 3 สี ที่เสาเอกพระเมรุมาศ พร้อมถือสายสูตรยกเสาเอก พระเมรุมาศขึ้นตั้ง ในเวลา 10.01 น. ตามมหัทธโนฤกษ์ที่หมายถึง ฤกษ์ใหญ่ที่ใช้ประกอบการมงคลทุกอย่างเป็นปฐมฤกษ์ ท่ามกลางพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ต่อมาประธานในพิธีได้โปรยข้าวตอก ดอกไม้ และวางพวงมาลัยที่โคนเสาเอกพระเมรุมาศ คณะนาฏศิลป์ สำนักการสังคีต กรมศิลปากร รำบวงสรวง จำนวน 9 คู่ ขณะเดียวกันประธานในพิธีถวายภัตตาหาร พร้อมด้วยเครื่องไทยธรรมและจตุปัจจัยแด่พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป และกรวดน้ำถวายเป็นพระราชกุศล

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะยังได้เยี่ยมชมแบบผังพระเมรุมาศและพระที่นั่งทรงธรรม ก่อนจะตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร และอาสาสมัคร ณ วิธานสถาปกศาลา (โรงขยายแบบ) อาคารปั้นหล่อประติมากรรม อาคารเขียนสีและตกแต่งองค์ประกอบ และอาคารจัดสร้างพระโกศจันทน์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ภายหลังการการตรวจเยี่ยม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การตรวจเยี่ยมการทำงานในวันนี้เป็นพิธียกเสาเอกพระเมรุมาศ ถือเป็นพิธีที่เข้มขลังก์และแสดงถึงขีดความสามารถของผู้ประกอบการคนไทยในการออกแบบที่ใช้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ และที่สำคัญต้องการให้สังคมและประชาชนได้รู้ว่าประเทศไทยมีสิ่งที่งดงาม เป็นจารีตประเพณี และเป็นอัตลักษณ์แสดงถึงความเป็นไทยมากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยควรจะภาคภูมิใจ

พร้อมกล่าวต่อไปว่า ช่วงนี้อยากให้ทุกคนสงบสติอารมณ์ ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ทำอะไรให้นึกคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ เหมือนกับรัฐบาลที่คิดและทำอะไรเพื่อคนไทยทั้งประเทศเป็นหลัก อะไรที่ไม่จำเป็น เป็นความขัดแย้งไม่สร้างสรรค์ อย่าให้ความสนใจ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการ พร้อมกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะกรรมการที่ร่วมกันดำเนินการทุกอย่างก้าวหน้าเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ