รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตรฯ มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในการจัดหาพลังงานในพื้นที่ภาคใต้อย่างเหมาะสมภายใน 1 เดือน

ข่าวทั่วไป Wednesday March 1, 2017 13:53 —สำนักโฆษก

รองนรม.พลเอก ประวิตรฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ คณะที่ 5 มอบ ก.แรงงานเสนอครม.พิจารณาอนุมัติให้แรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศในเทศกาลสงกรานต์ มอบหน่วยงานลงพื้นที่เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเพื่อการจัดหาพลังงานมาใช้ในพื้นที่ภาคใต้

วันนี้ (1 มี.ค.60) เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ครั้งที่ 3/2560 ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยภายหลังการประชุม พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก และรองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย ร้อยตรีหญิง พรชนก อ่ำพันธุ์ ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้แถลงผลการประชุม สรุปสาระสำคัญดังนี้

ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ ตามที่คณะอนุกรรมการปฏิรูประบบงานด้านความมั่นคงได้ชี้แจงแนวทางต่าง ๆ ที่มีการเตรียมการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจให้ที่ประชุมรับทราบ โดยประธานได้มีข้อห่วงใยและให้ความสำคัญในเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เกี่ยวกับการบริการพี่น้องประชาชนให้มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การป้องกันปัญหาการก่ออาชญากรรมต่าง ๆ รวมทั้งการเพิ่มความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในการใช้ชีวิต โดยประธานได้ฝากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ไปปรับเพิ่มให้การทำงานในเรื่องดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีความรวดเร็ว ทั้งการสั่งการ ระบบการทำงาน เพื่อให้การบริการและสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด งานใดที่ซ้ำซ้อนก็ให้มีการดูแลให้ชัดเจน

พร้อมกับที่ประชุมรับทราบเรื่องการแก้ปัญหาการรุกลำน้ำสาธารณะ (คลองลาดพร้าว) และเรื่องโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ตามที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการรุกลำน้ำสาธารณะ (คลองลาดพร้าว) รายงาน โดยในเรื่องการแก้ปัญหาการรุกลำน้ำสาธารณะ (คลองลาดพร้าว) แบ่งเป็น 1. การเตรียมการที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนตลอดแนวริมคลองลาดพร้าวเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งการพัฒนาชุมชนลาดพร้าวได้กำหนดการพัฒนา 52 ชุมชน 7,081 ครัวเรือน ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 7 ชุมชน 675 ครัวเรือน เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 ชุมชน และเพิ่มขึ้น 549 ครัวเรือนในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ สำหรับการพัฒนาชุมชนในปี 2560 มีแผนก่อสร้างบ้านเรือนในเดือนมีนาคม 2560 รวม 7 ชุมชน 59 ครัวเรือน สะสมที่ 609 ครัวเรือน เดือนมิถุนายน 2560 สร้างเพิ่มขึ้นเป็น 18 ชุมชน ครัวเรือนสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 1,335 ครัวเรือน เดือนกันยายน 2560 สร้างเพิ่มขึ้นอีก 30 ชุมชน ครัวเรือนสะสมเป็น 2,025 ครัวเรือน และในเดือนธันวาคม 2560 สร้างรวม 33 ชุมชน รวมสะสมทั้งหมด 3,672 ครัวเรือน และจะมีการจัดตั้งสหกรณ์ 20 สหกรณ์จากเดิมที่มีเพียง 5 สหกรณ์ ปัจจุบันจัดตั้งเรียบร้อยทั้งหมด 20 สหกรณ์ ซึ่งจะใช้เป็นกลไกหลักในการดูแลกันเองของชุมชน เป็นการพัฒนาวิถีชีวิตการใช้จ่ายระดับชุมชน ให้สามารถมีค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานในครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน 2. การสร้างแนวเขื่อนเพื่อบริหารจัดการน้ำสาธารณะในการแก้ปัญหาคุณภาพน้ำ และการเตรียมการป้องกันน้ำท่วมในอนาคต ใช้เป็นเส้นทางระบายน้ำหลักเพื่อเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชน โดยแนวเขื่อนมีเสาเข็มโครงการความยาวทั้งหมด 45 กิโลเมตร ปัจจุบันตอกเสาเข็มแล้วเสร็จกว่า 6,631 ต้น และมีการพัฒนาคุณภาพน้ำควบคู่กันไปในระบบชลประทาน มีการผลักดันน้ำผันน้ำมาจากทางเหนือ เพื่อผลักดันให้น้ำเสียในคลองลาดพร้าวกลับมาใสสะอาด รวมถึงมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยน้ำลงคลองให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองลาดพร้าวด้วย

ที่ประชุมยังได้รับทราบความคืบหน้าโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ที่มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนแม่บทโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง พ.ศ. 2559-2567 ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นกว่า 13,746 ครัวเรือน จากเดิมที่อยู่อาศัยได้เพียง 6,546 หน่วย รวมประชาชนที่ได้รับประโยชน์ทั้งหมด 20,292 หน่วย โดยแผนการดำเนินงานที่แล้วเสร็จในขณะนี้คือมีการสำรวจชั้นดิน ปิดรั้วรอบโครงการ ปิดผนังกันเสียงด้านมัสยิด และดูแลบริเวณรอบโครงการ พร้อมกับมีการติดเครื่องวัดเสียง เครื่องตรวจฝุ่นละอองในอากาศตามมาตรฐาน EIA ซึ่งประชาชนจะสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ในเดือนมิถุนายน 2561 นอกจากนี้ มีกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่กว่า 19 ชุมชนเพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้อยู่อาศัย โดยมีการให้ความรู้ ให้การอบรมเสริมสร้างศักยภาพผู้นำชุมชน

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมรับทราบเรื่องการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ตามที่คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนได้รายงาน ซึ่งมีความคืบหน้าทั้งในส่วนของ ICAO FAA และ EASA รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงการบินพลเรือนที่จะเป็นยุทธศาสตร์ในระยะยาว พร้อมกับ รับทราบแผนการจัดระเบียบคนไร้ที่พึ่งและขอทานในพื้นที่กรุงเทพมหานครในระยะเร่งด่วน ตั้งแต่ 1-31 มีนาคม 2560 ที่เป็นการบูรณาการของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรายงานผลการดำเนินการต่อคณะรัฐมนตรี โดยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ กทม. ตำรวจ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มูลนิธิกระจกเงาและมูลนิธิอิสระชน ได้ลงพื้นที่สำรวจ ดำเนินงานภายใต้ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ.คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ. 2551 เพื่อคัดกรองประชาชนที่สำรวจ กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน โดยจะส่งคนไร้ที่พึ่งไปที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งบ้านมิตรไมตรี และสถานคุ้มครองทั้ง 14 แห่งในกรุงเทพมหานคร รวมทั้งส่งไปที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาทักษะชีวิต เพื่อให้คนไร้ที่พึ่งสามารถดำรงตนอยู่ได้และมีอาชีพในอนาคต ส่วนในกรณีที่เจ็บป่วยหรือมีอาการทางจิตเวช จะส่งไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาทั้งระบบทางกายและจิตเวช สำหรับเด็ก มีแผนที่จะจัดส่งเด็กไปอยู่ที่บ้านพักและครอบครัวสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ ขณะที่ผู้สูงอายุจะส่งไปที่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ ด้านคนพิการ จะส่งไปยังสถานสงเคราะห์คนพิการ ขณะที่แรงงานต่างด้าว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะดำเนินการส่งกลับประเทศของแรงงานต่างด้าว นอกจากนี้ มีกระบวนการคุ้มครองช่วยเหลือในเบื้องต้นที่ประกอบด้วย การตรวจร่างกายทางจิต ดำเนินการทางทะเบียนราษฎร์สวัสดิการต่าง ๆ ของประชาชนที่พึงได้รับ การวางแผนในกรณีที่ต้องทำแผนระยะยาว การพัฒนาศักยภาพร่างกายสู่สังคม ส่งเสริมอาชีพให้กับผู้เร่ร่อนผู้ไร้ที่พึ่ง และการติดตามเตรียมความพร้อมในการไปเยี่ยมบ้าน ประสานงานเครือข่ายต่าง ๆ 4 กลุ่ม ทั้งนี้ จากการสำรวจมีจำนวนผู้ไร้ที่พึ่งรวมทั้งประเทศประมาณ 3,000 กว่าราย โดยจะมีการดำเนินการจัดระเบียบและสำรวจในโอกาสต่อไป เพื่อเป็นกรณีศึกษาสำหรับการวางแผนระยะยาว

นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบตามที่คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และแรงงานผิดกฎหมาย ชี้แจงเรื่องการอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ ในปี 2559 ที่ผ่านมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งให้แรงงานต่างด้าวเดินทางกลับประเทศของตนในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อเยี่ยมเยียนญาติมิตร และสามารถเดินทางกลับเข้ามาทำงานต่อในประเทศไทยได้ โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ที่ประชุมโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เสนอให้มีการพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงแรงงานเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในสัปดาห์หน้า เพื่อให้คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยใช้อำนาจผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสามารถเดินทางกลับประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 และอาจจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา หรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ตามกระบวนการเดินทางกลับออกและเข้ามาในประเทศไทยให้ด้วย

พันเอกหญิง ศิริจันทร์ กล่าวด้วยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ได้มอบหมายให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หาวิธีสร้างความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วนต่อปัญหาความมั่นคงทางพลังงาน หลังจากรัฐบาลสั่งจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จังหวัดกระบี่ ใหม่ โดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ดังนั้น พลเอก ประวิตร จึงสั่งการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือกระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย รวมถึง พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสารท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจ พร้อมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วนในพื้นที่ ภายใน 1 เดือนนับจากนี้ เพื่อการจัดหาพลังงานมาใช้ในพื้นที่ภาคใต้ได้อย่างเหมาะสม ให้สามารถรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ และเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนได้อย่างเหมาะสม

------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ