นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ของศูนย์บริการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนในภาพรวม

วันนี้ (27 มี.ค.60) เวลา 15.55 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม ณ สำนักงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม (One Stop Service : OSS) ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนในภาพรวม เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม พร้อมตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์บริการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม ซึ่งใช้เป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน (One Stop Service : OSS) เพื่อบริการข้อมูลและอำนวยความสะดวกด้านการค้า การลงทุน และแรงงาน โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนในเชิงรุก เน้นการให้บริการการค้าการลงทุน ที่รวดเร็วและครบวงจร โดยในเบื้องต้นจะให้ข้อมูลคำปรึกษา และรับเรื่องเพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการประสานกับศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน (One Start One Stop Investment Center : OSOS) ของ สกท. ณ อาคารจัตุรัสจามจุรี ทั้งนี้ นอกจากจังหวัดนครพนมได้ก่อสร้างอาคารสำนักงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ OSS ยังได้มีการก่อสร้างอาคารศูนย์โลจิสติกส์ และคลังสินค้ารวมไปถึงการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งระหว่างประเทศ และรองรับการใช้ประโยชน์สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) และรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม สำหรับภาพรวมการดำเนินการในด้านต่าง ๆ มีความคืบหน้าโดยลำดับ โดยเฉพาะด้านการคมนาคมขนส่งต่าง ๆ ทั้งทางบก ทางน้ำและอากาศ ขณะนี้มีความพร้อมทุกด้าน ขณะที่ด้านปริมาณสินค้าที่นำเข้า-ส่งออกเมื่อเทียบกับก่อนที่จะมีสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ปี 2553 มีมูลค่าจำนวน 5,000 ล้านบาท และภายหลังมีสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งในปี 2558 และ 2559 มีมูลค่าเกินกว่า 1 แสนล้านบาท ในขณะที่ดินในโซน 1,400 ไร่ ขณะนี้ได้มีการออกโฉนดเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งกระทรวงมหาดไทยได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการเรื่องที่ดินในเรื่องค่าเช่าและค่าธรรมเนียมแล้ว และอยู่ระหว่างนำเสนอคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ เมื่อ กนพ. เห็นชอบแล้วจะนำเสนอให้กรมธนารักษ์เป็นผู้สรรหาเอกชนลงทุน โดยนักลงทุนหลักที่ให้ความสนใจและขอข้อมูลมีทั้งนักลงทุนไทย จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เวียดนาม และออสเตรเลีย เป็นต้น

สำหรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดนครพนม “ธุรกิจการค้าชายแดนและพื้นที่บริการโลจิสติกส์” คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ได้ออกประกาศ กนพ. ที่ 2/2558 ลงวันที่ 24 เมษายน 2558 กำหนดให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนครพนม ครอบคลุมพื้นที่ 2 อำเภอ จำนวน 13 ตำบล ได้แก่ อำเภอเมืองนครพนม 10 ตำบล และอำเภอท่าอุเทน 3 ตำบล มีเนื้อที่รวม 794.79 ตารางกิโลเมตร หรือ 495,743.75 ไร่คิดเป็น ร้อยละ 14.71% ของพื้นที่จังหวัด โดยกิจการเป้าหมายและเงื่อนไขของกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษนครพนม อาทิ อุตสาหกรรมเกษตร ประมงและที่เกี่ยวข้อง การผลิตเซรามิกส์ อุตสาหกรรมสิ่งทอ การผลิตเครื่องเรือน อุตสาหกรรมอัญมณี เครื่องประดับ กิจการโลจิสติกส์ กิจการสนับสนุนการท่องเที่ยว ฯลฯ ทั้งนี้ พื้นที่ชายแดนจังหวัดนครพนมมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่เน้นธุรกิจการค้าชายแดนและบริการโลจิสติกส์ โดยเป็นช่องทางการค้าผ่านแดนไปยังจีนตอนใต้ (มณฑลกว่างสี) ที่มีมูลค่าสูงสุดของประเทศ และมีศักยภาพที่จะเป็นช่องทางการขนส่งไปยังประเทศแถบตะวันออกไกล (ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน) โดยผ่านท่าเรือหวุ๋งอ๋างในเวียดนาม และเส้นทางรถไฟสายบ้านไผ่ (ขอนแก่น)-มหาสารคาม- มุกดาหาร-นครพนม ซึ่งมีแผนในการพัฒนาจะทำให้นครพนมมีเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงกับเส้นทางรถไฟสายหลักของประเทศ โดยจะเป็นโอกาสในการขยายกิจกรรม ด้านโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมทั้งเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ อาทิ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ซึ่งสามารถสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป และมีทิวทัศน์บริเวณริมแม่น้ำโขงที่สวยงามเหมาะแก่การพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและที่อยู่อาศัยของนักลงทุนไทยและต่างประเทศ

---------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th