รอง นรม.วิษณุฯ เป็นประธานการประชุมเตรียมการหน่วยงานภาครัฐเพื่อดำเนินการออกกฎหมายให้สอดคล้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับใหม่ ครั้งที่ 1/2560

ข่าวทั่วไป Thursday April 6, 2017 14:43 —สำนักโฆษก

รอง นรม.วิษณุฯ เป็นประธานการประชุมเตรียมการหน่วยงานภาครัฐเพื่อดำเนินการออกกฎหมายให้สอดคล้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับใหม่ ครั้งที่ 1/2560

วันนี้ (5 เมษายน 2560) เวลา 13.30 น ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมเตรียมการหน่วยงานภาครัฐเพื่อดำเนินการออกกฎหมายให้สอดคล้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับใหม่ ครั้งที่ 1/2560 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือตัวแทนปลัดกระทรวง และตัวแทนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ดังนี้

?ประธานได้ชี้แจงต่อที่ประชุมให้มีความรู้ความเข้าใจในแนวทางของการจัดทำและการเสนอร่างกฎหมายตามบทบัญญัติ มาตรา 77 ของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับใหม่ ทั้งนี้ เป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 โดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำขึ้น เพื่อให้หน่วยงานของภาครัฐนำไปถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดต่อไป โดยหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความจำเป็นในการตราพระราชบัญญัติ (Checklist) ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับปรุงขึ้นนั้น เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการจัดทำและการเสนอร่างกฎหมายตามบัญญัติ มาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 เรื่องนโยบายการปฏิรูปกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารโดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบความจำเป็นในการตราพระราชบัญญัติท้ายทะเบียนว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548 และให้หน่วยงานของภาครัฐถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดต่อไป

?นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐต้องเตรียมความพร้อมในการดำเนินการเพื่อให้การตรากฎหมายภายหลังรัฐธรรมนูญฯ ประกาศใช้บังคับแล้ว ในวันที่ 6 เมษายน 2560 เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญฯบัญญัติไว้ ซึ่งได้สรุปเป็นมาตราในการตรากฎหมายไว้ 4 มาตรการ ได้แก่

??1. มาตรการทั่วไป รัฐพึงจัดให้มีกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็น ณ หน่วยงานของภาครัฐโดยคำนึงถึงความจำเป็นในการตรากฎหมายและต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาการทบทวนตามความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. 2558

??2. มาตรการก่อนการตรากฎหมาย รัฐพึงจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายอย่างรอบด้านและเป็นระบบ รวมทั้ง เปิดเผยการรับฟังความคิดเห็น (Public Hearing) และการวิเคราะห์นั้นต่อประชาชน โดยผ่านระบบเว็บไซต์ของหน่วยงานหรือการประชุมชี้แจงของหน่วยงาน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอน ต่อไป

??3. มาตรการหลังการตรากฎหมาย รัฐพึงจัดให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายทุกระยะเวลาที่กำหนดโดยรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อพัฒนากฎหมายทุกฉบับให้สอดคล้องและเหมาะสมโดยหน่วยงานของภาครัฐ ต้องคำนึงถึงหรือพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาการทบทวนความเหมาะสมของกฎหมาย พ.ศ. 2558

??4. มาตรการควบคุมเนื้อหาของกฎหมาย ต้องสอดคล้องและไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญโดยไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม และมีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไปโดยไม่เลือกปฏิบัติสอดคล้องและไม่ขัดหรือแย้งกับแนวนโยบายแห่งร่างยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ อีกทั้งมีระบบคณะกรรมการให้กระทำได้เท่าที่จำเป็น ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงหรือพิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับหลักการ และสาระสำคัญของพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 และพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ด้วย

?จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้ให้โอกาสผู้เข้าร่วมประชุมได้มีการตอบข้อซักถามเพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนเองให้สอดคล้องและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับใหม่ ซึ่งเป็นไปด้วยความเข้าใจและสามารถนำไปปฏิบัติได้ต่อไปภายหลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับใหม่ ในวันที่ 6 เมษายน 2560 ??

*****************************************

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ