รัฐบาลสนับสนุนการออกแบบอาคารประหยัดไฟฟ้า เดินหน้าแผนอนุรักษ์พลังงาน 10 ปี ตั้งเป้าประหยัดได้ 30% พร้อมดึงผู้ประกอบการร่วมสร้างเมืองนวัตกรรมประหยัดพลังงานแห่งอนาคต

ข่าวทั่วไป Saturday April 8, 2017 15:05 —สำนักโฆษก

รัฐบาลสนับสนุนการออกแบบอาคารเพื่ออนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศ พ.ศ. 2558 -2579 ที่เน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการบังคับใช้กฎหมาย

วันนี้ (8 เม.ย. 60) พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลสนับสนุนการออกแบบอาคารเพื่ออนุรักษ์พลังงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พลังงานของประเทศ พ.ศ. 2558 -2579 ที่เน้นการปฏิบัติการเชิงรุก 2 เรื่อง คือ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการบังคับใช้เป็นกฎหมาย

"กระทรวงพลังงานตั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงานให้ได้ร้อยละ 30 ภายในปี 2579 โดยล่าสุดได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับภาคเอกชนผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 5 แห่ง เพื่อสร้างบ้านประหยัดพลังงานให้คนไทยได้อยู่อาศัยอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท นารายณ์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)"

ทั้งนี้ ในปีนี้จะเริ่มนำร่องกับอสังหาริมทรัพย์ที่มีพื้นที่ 10,000 ตร.ม. ขึ้นไปก่อน และจะทยอยขยายลงไปจนถึงพื้นที่ 2,000 ตร.ม. ภายในปี 2562 ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกฝ่ายช่วยกันลดการใช้พลังงานและประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น และในอนาคตจะขยายความร่วมมือไปยังผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายอื่นต่อไป

"ท่านนายกฯ อยากให้สถานที่ราชการและหน่วยงานของในทุกระดับได้คำนึงถึงการออกแบบก่อสร้างอาคารของตนที่ช่วยอนุรักษ์พลังงานด้วย โดยนำองค์ความรู้จากงานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานไปใช้ประโยชน์ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นเมืองนวัตกรรมประหยัดพลังงานแห่งอนาคตได้ในอนาคต”

สำหรับการออกแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน จะเน้นเรื่องการใช้ประโยชน์จากแสงสว่างและอุณหภูมิตามธรรมชาติให้มากที่สุด เพื่อให้ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยที่สุด เช่น เลือกทิศทางในการตั้งอาคารโดยพิจารณาจากทิศทางของลมและแสงแดด วางตำแหน่งประตูหน้าต่างให้ลมพัดไหลเวียนเข้าออกได้เพื่อระบายอากาศ ใช้ผนังโปร่งแสงบางส่วนให้แสงสว่างจากธรรมชาติเข้าถึงเพื่อประหยัดไฟในเวลากลางวัน ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน ใช้วัสดุในการก่อสร้างอาคารและหลังคาที่ไม่ดูดกลืนความร้อน เป็นต้น

............l

สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ