นายกรัฐมนตรีเผยรัฐบาลให้ความสำคัญกับระบบเศรษฐกิจฐานราก มุ่งส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจภายใน

ข่าวทั่วไป Tuesday May 2, 2017 15:35 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีเผยรัฐบาลให้ความสำคัญกับระบบเศรษฐกิจฐานราก มุ่งส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งจากเศรษฐกิจภายใน

วันนี้ (2 พฤษภาคม 2560) เวลา 13.00 น. ณ บริเวณห้องโถงตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณีสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยว่า ถึงแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะดีขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่าน ซึ่งแสดงให้เห็นสถานการณ์เศรษฐกิจในอนาคต แต่ก็มีความอ่อนไหวอยู่บ้างบางประการทั้งสถานการณ์ภายนอกประเทศ รวมถึงความขัดแย้งในกรณีต่าง ๆ แต่รัฐบาลให้ความสำคัญกับระบบเศรษฐกิจฐานรากเป็นหลัก ซึ่งจากรายงานของสื่อมวลชน และจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องพบว่าประชาชนยังมีรายได้ไม่เพียงพอ พร้อมกับกล่าวย้ำว่าถึงแม้จะมีการพัฒนาปรับโครงสร้างเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก แต่รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากว่าทำอย่างไรจะให้ประชาชนมีเงินใช้มากขึ้น โดยในวันนี้ได้เร่งรัดในที่ประชุมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลภาคเกษตร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้มีรายได้น้อย รวมถึงการบริหารจัดการน้ำ และการจัดสรรที่ดินให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการมาตลอดแต่ยังติดขัดกับกฎหมาย วิธีการดำเนินการ ซึ่งต้องรื้อฟื้น และดำเนินการทำใหม่ โดยบางพื้นที่มีปัญหาในการทำแก้มลิง ตรงไหนที่ดีอยู่แล้วรัฐบาลก็จะเข้าไปส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำในระดับท้องถิ่นเพื่อเพิ่มศักยภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ การแก้ปัญหาน้ำท่วมต่าง ๆ พร้อมเน้นย้ำให้แก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้จะต้องลดระดับลงให้มากที่สุด ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนในการแก้ไขปัญหา

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำกิจกรรมมากมายในการดูแลผู้มีรายได้น้อย ทั้งการจัดทำโครงสร้างเรื่องระบบสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ตลาดประชารัฐ ซึ่งเป็นการเริ่มทำโครงสร้างใหม่ทำให้ผลสัมทธิ์ที่ออกมาสู่ประชาชนอาจจะมีน้อยไป เพราะอยู่ในระยะฟื้นฟูต้องแก้ไข พร้อมกล่าวว่ารัฐบาลไม่เคยลืมดำเนินการเรื่องเหล่านี้ และไม่ได้เน้นทำแต่เรื่องใหญ่ในระดับประชาคมเศรษฐกิจระดับอาเซียน (เออีซี) ซึ่งจะต้องมีการสานต่อ และทำไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนในระยะแรก และเพิ่มรายได้ทั้งระบบให้มากขึ้น ทำให้ชาวบ้านมีเงินใช้มากขึ้น มีการจ้างงาน และจะต้องแก้ไขปัญหาฐานรากสร้างความเข้มแข็งจากภายใน พร้อมทั้งกล่าวแสดงความเป็นห่วงต่อการบิดเบือนข้อมูล ทำให้เกิดการเข้าใจผิดโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย พร้อมกล่าวเน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุด ทุกคนจะต้องพัฒนาตัวเองโดยการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้ามาช่วยการประกอบธุรกิจ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ