นรม. คาดหวังให้ข้าราชการนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ตระหนักถึง ความซื่อสัตย์สุจริต คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตนและยึดหลักธรรมาภิบาล

ข่าวทั่วไป Thursday May 18, 2017 14:41 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีคาดหวังให้นักบริหารเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ตระหนักถึง “ความซื่อสัตย์สุจริต” และ “คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน” ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยหลักธรรมาภิบาล ทุ่มเท เสียสละและอุทิศเวลาให้แก่ราชการอย่างเต็มที่

วันนี้ (17 พฤษภาคม 2560) เวลา 09.30 น. ณ ห้องรับรองสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบโอวาทข้าราชการที่สำเร็จจากโครงการพัฒนานักบริหาร การเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ พร้อมมอบประกาศนียบัตรและเข็มที่ระลึกแก่ข้าราชการที่สำเร็จจากโครงการพัฒนา นักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ รุ่นที่ 9 จำนวน 39 คน เพื่อรับทราบนโยบาย แนวคิด และความคาดหวังของนายกรัฐมนตรีต่อข้าราชการรุ่นใหม่อันจะเป็นเข็มทิศและแนวทางเพื่อนำไปปฏิบัติราชการ อีกทั้งเป็นแรงบันดาลในการปฏิบัติหน้าที่ราชการเพื่อพัฒนาประเทศไทยต่อไป โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ คณะผู้บริหาร อาจารย์ ที่ปรึกษา และข้าราชการผู้สำเร็จโครงการเข้าร่วม

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีกับนักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ทุกคน ที่สำเร็จจากโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) รุ่นที่ 9 พร้อมกล่าวมอบโอวาทตอนหนึ่งว่าข้าราชการรุ่นใหม่เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของภาครัฐ และจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล รวมทั้งการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ และนำนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างเสริมการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนให้แก่ประเทศชาติ และคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ ภาครัฐที่จะต้องบริหารงานโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และจะต้องปรับตัวในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมในยุคดิจิทัล รวมทั้งการเข้าสู่ยุคประเทศไทย 4.0 ซึ่งมุ่งเน้นการบูรณาการในการดำเนินการและบริหารจัดการ รวมทั้งด้านงบประมาณ การพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์การเพิ่มประสิทธิภาพงานและการบริการ การสร้างความโปร่งใส และสร้างให้ภาคราชการมีขีดสมรรถนะสูงมีระบบการบริหารงานที่ดีมีประสิทธิภาพ เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธาและเป็นที่พึ่งของประชาชน และผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างแท้จริง

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การที่ทุกท่านได้ปฏิบัติงานจริง รวมถึงการทำงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นการนำร่องให้ทุกท่านได้เข้าใจระบบและบริบทการบริหารงานภาครัฐ ภาคเอกชน และกลไกการบริหารการเปลี่ยนแปลงในองค์กรต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างกัน ในบางหน่วยงานที่ท่านอาจจะต้องทำงานร่วมกับฝ่ายข้าราชการการเมือง ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม ขอให้นำหลักการประชารัฐซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมาบูรณาการทำงานในเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อประสานการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนระบบราชการ 4.0 ให้เป็นรูปธรรม ในการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน จะต้องใช้ระยะเวลาและความอดทน โดยต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็ง ความสำเร็จเหล่านี้เกิดขึ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละของทุก ๆ ท่าน

โดยคาดหวังให้นักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ทุกคนนำความรู้ และประสบการณ์ ต่าง ๆ ที่ได้รับการบ่มเพาะจากโครงการฯ ไปใช้พัฒนาปฏิบัติหน้าที่ที่รับผิดชอบในหน่วยงานของตนเองให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ภารกิจภาครัฐตามเป้าหมาย และผลักดันการดำเนินนโยบายสาธารณะและบริการให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง พร้อมทั้ง ขอให้ทุกคนตระหนักในเรื่อง “ความซื่อสัตย์สุจริต” และ “คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน” อยู่เสมอ และปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยหลักธรรมาภิบาล ทุ่มเท เสียสละและอุทิศเวลาให้แก่ราชการอย่างเต็มที่ และที่สำคัญ คือ ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ เพื่อพัฒนาตนเองและเรียนรู้เพิ่มเติมตลอดเวลาเพื่อให้เป็นผู้ที่รอบรู้ รู้จริง รู้กว้าง การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในภาคราชการ และเพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ อีกทั้งขอให้ทุกท่านได้น้อมนำแนวพระราชดำริหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และหลักการทรงงานมาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนและปฏิบัติหน้าที่ราชการตามรอยเบื้องพระยุคลบาทต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ