โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความห่วงใยประชาชนของนายกรัฐมนตรี ต่อกรณีต้นไม้ใหญ่ริมทาง และกำชับเจ้าหน้าที่ให้มีความรัดกุมมากขึ้นด้านการรักษาความปลอดภัย

ข่าวทั่วไป Tuesday May 23, 2017 15:17 —สำนักโฆษก

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความห่วงใยประชาชนของนายกรัฐมนตรี ต่อกรณีต้นไม้ใหญ่ริมทาง และกำชับเจ้าหน้าที่ให้มีความรัดกุมมากขึ้นด้านการรักษาความปลอดภัย

วันนี้ (23 พฤษภาคม 2560) เวลา 15.30 ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ พลโท สรรเสิญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวถึงความห่วงใยประชาชนของนายกรัฐมนตรี ต่อกรณีต้นไม้ใหญ่ริมทางว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบต้นไม้ใหญ่ริมทาง รวมถึงป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ตามจุดต่าง ๆ ทั่วกรุงเทพมหานครที่มีความเสี่ยงเรื่องการโค่นล้ม หรือพังทลายลงมาได้ รวมถึงในทำเนียบรัฐบาลและบริเวณโดยรอบ ๆ ใกล้เคียงเช่นกัน ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่อยู่หลายต้น พร้อมมอบหมายให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ร่วมตรวจสอบ และดูแลให้มีความปลอดภัยแก่ประชาชนที่สัญจรไปมาให้ดีที่สุด

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำเรื่องการรักษาความปลอดภัย โดยได้ขอให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ความสำคัญในการคัดกรองบุคคลที่เข้ามาติดต่อในสถานที่ราชการโดยมีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น พร้อมมีระบบไฟส่องสว่างในเวลากลางคืนให้สอดคล้องสมบูรณ์และทั่วถึง รวมถึงกล้อง CCTV บริเวณใดที่ติดตั้งไว้นานแล้วและไม่เหมาะสม เห็นควรให้มีการปรับมุมกล้องให้เหมาะสมกับเส้นทางสัญจรให้มากที่สุด ตลอดจนขอให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม พร้อมช่วยกันคอยสังเกตบุคคลใดที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ และให้ช่วยกันเฝ้าระวังพร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบทันทีด้วย โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงเพิ่มเติมถึงเรื่องการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ หรือลงทะเบียนสำหรับผู้มีรายได้น้อยว่า ได้หมดเขตการลงทะเบียนไปแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 โดยมียอดลงทะเบียนจำนวนประมาณ 14 ล้านคน โดยในจำนวนดังกล่าวนั้นเป็นเกษตรกรประมาณ 4.6 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลจะนำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณา เพื่อหาแนวทางที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล เช่น เรื่องระบบคมนาคมขนส่ง และระบบขนส่งสาธารณะต่าง ๆ ให้เร่งดำเนินการเพื่อสอดคล้องกับการขับเคลื่อนประเทศไปสู่การปฏิรูปประเทศไทย 4.0 พร้อมเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกทั้งที่เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล แต่มีความขัดข้องต่อข้อกฎหมายใด ๆ ก็ให้เร่งชี้แจงและเสนอมา เพื่อปลดล็อคความขัดข้องนั้น ให้สามารถทำงานได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

***********************************

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ