วันนี้ (31 พ.ค.60) เวลา 09.00 น. พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นเปิดงานประชุมวิชาการเครือข่ายพลังงานแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 13 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ความร่วมมือของวิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ซึ่งภายในงาน ประกอบด้วย การบรรยายพิเศษทางวิชาการ การอภิปราย และการนำเสนอผลงานของนักวิชาการและนักวิจัยจาก 15 สถาบัน โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี บรรยายพิเศษในหัวข้อ “นโยบาย สถานการณ์ การสนับสนุนของภาครัฐ ด้านพลังงานของประเทศไทย” โดยกล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยใช้พลังงานทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ภายใน 10 ปี ผ่านการพัฒนาอุตสาหกรรมและผลักดันการอนุรักษ์พลังงานอย่างเต็มรูปแบบ ลดระดับการใช้พลังงานต่อผลผลิตลงร้อยละ 25 ภายใน 20 ปี และมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนภายในประเทศให้สามารถแข่งขันในตลาดสากล
รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบันพลังงานนับเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญยิ่งในการตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของสังคม และเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งยังเป็นปัจจัยพื้นฐานต่อยอดสู่การพัฒนาทุกด้าน ทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม แรงงาน สังคม ตลอดจนภาคครัวเรือน ล้วนต้องพึ่งพาพลังงานด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น แนวทางของรัฐบาลที่จะผลักดันยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 จึงจำเป็นต้องต้องพัฒนาพลังงาน 4.0 เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายในหลักการ คือ การยกระดับประสิทธิภาพของระบบพลังงาน และนำนวัตกรรมที่เหมาะสมไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งต้องครอบคลุมทั้งระบบ ตั้งแต่การผลิต จัดหา แปรรูป จนถึงการใช้งาน ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ ไฟฟ้า
ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายของพลังงาน 4.0 เพื่อยกระดับการบริหารจัดการระบบพลังงานของประเทศโดยจะต้องดำเนินการไปพร้อมกับการสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนด้วย จึงจะสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศไทยได้อย่างแท้จริง
ที่มา: http://www.thaigov.go.th