นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จันทบุรีติดตามความก้าวหน้าการส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่และการบริหารจัดการผลไม้อย่างมีคุณภาพ

ข่าวทั่วไป Wednesday June 7, 2017 15:00 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีชื่นชมกลุ่มเกษตรกรจันทบุรีที่มีความพร้อมรวมกลุ่มสร้างเสริมอาชีพเกษตรกรรมให้มีความมั่นคงและยั่งยืน

วันนี้ (7 มิถุนายน 2560) เวลา 10.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามผลงานเด่นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยกผลสำเร็จจากการส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่และการบริหารจัดการผลไม้จังหวัดจันทบุรี เป็นต้นแบบของประเทศ ณ สหกรณ์การเกษตรเขาคิชณกูฎ จังหวัดจันทบุรี

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมความสำเร็จจากการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่อย่างครบวงจร และการบริหารจัดการผลไม้อย่างมีคุณภาพ พร้อมพบปะกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ กว่า 1,000 คน โดยมีการมอบเงินสนับสนุนสินเชื่อเพื่อพัฒนาการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และเครื่องจักรกลการเกษตรภายใต้โครงการ Motor pool แก่แปลงใหญ่โคนมสอยดาว จำนวน 10 ล้านบาท ตลอดจนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการรับซื้อผลไม้ให้สหกรณ์การเกษตรเขาคิชณกูฎ จำกัด 25 ล้านบาท และมอบสถานีสูบน้ำบ้านท่าอุดมเพื่อสนับสนุนพื้นที่แปลงใหญ่ 1 โครงการ พร้อมเยี่ยมชมกระบวนการจัดการและควบคุมคุณภาพผลไม้ก่อนการส่งออก การส่งออกการประมูลมังคุดแปลงใหญ่และแปลงใหญ่ประชารัฐกุ้งขาว อำเภอท่าใหม่ ซึ่งเกษตรกรปรับเปลี่ยนการเลี้ยงกุ้งในบ่อเลี้ยงที่ปูพีอีและมีการปรับคุณภาพน้ำด้วยเทคโนโลยี 3 สะอาด ได้แก่ น้ำสะอาด บ่อสะอาด และกุ้งสะอาด ตามแนวทางประชารัฐ ร่วมกับบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทำให้กุ้งปลอดโรค EMS ระยะเวลาการเลี้ยงลดลง จากเดิม 4 เดือนต่อรอบ เป็น 2 เดือนต่อรอบ ส่งผลให้กุ้งมีผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 1,000 กก./ไร่/รุ่น เพิ่มเป็น 1,100 กก./ไร่/รุ่น

พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวรายงานผลการดำเนินงานส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่และการบริหารจัดการผลไม้ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่มากว่า 3ปี เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมีการบริหารจัดการร่วมกันตั้งแต่การผลิต จนถึงการตลาดเพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และมีมาตรฐานภายใต้การบริหารจัดการที่ดี จนปัจจุบันแปลงใหญ่ได้ขยายเป็น 2,138 แปลง สำหรับผลจากการดำเนินงานในปี 2559 ส่งผลให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตลงได้ 3,437.82 ล้านบาท มูลค่าผลผลิตเพิ่มขึ้น 1,427.12 ล้านบาท ทำให้เกษตรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตได้รวม 4,864.94 ล้านบาท เกษตรกรมีการบริหารจัดการที่ดีส่งผลให้กลุ่มมีความเข้มแข็ง โดยมีสถานะเป็นกลุ่มเกษตรกรจำนวน 109 กลุ่ม ทั้งนี้ กระทรวงเกษตร ฯ มุ่งหวังที่จะยกระดับและพัฒนาคุณภาพเกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่ให้เป็น Smart Farmer ทั้งหมด และพัฒนาคุณภาพสินค้าให้มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดโลกต่อไป

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับเกษตรกรที่มาให้การต้อนรับว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการในวันนี้ เพื่อมารับทราบการทำงานร่วมกันของภาคประชาชนาครัฐ และภาคเอกชนในการพัฒนาศักยภาพของจังหวัดจันทบุรีให้แข็งแกร่ง และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งอาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพของประชากรส่วนใหญ่ทั้งประเทศ การพัฒนาจะต้องพัฒนาแบบครบวงจร บริหารจัดการทั้งระบบตั้งแต่กระบวนการผลิตไปถึงช่องทางการจำหน่ายผลผลิต เกษตรกรจึงต้องมีการพัฒนาตนเอง ควบคู่กับการพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพอยู่เสมอ อย่ามุ่งเน้นแต่เรื่องราคาอย่างเดียว ต้องพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพ ราคาพืชผลจะได้ดีขึ้น อีกทั้งแนะนำให้เกษตรกรได้มีการรวมกลุ่มเป็นเกษตรกรแปลงใหญ่ เกิดการรวมกลุ่มจัดตั้งสหกรณ์เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงและมีการขับเคลื่อนกันอย่างเข้มแข็ง สร้างอำนาจในการต่อรองกับพ่อค้าคนกลาง สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ประจำกลุ่ม รวมทั้งสร้าง story เพื่อให้เกิดความน่าสนใจสร้างมูลค่าให้กับสินค้า นำเทคโนโลยีมาพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐาน มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้นแล้วพัฒนาต่อยอดขยายช่องทางการตลาด รวมถึงขยายเครือข่ายให้มากขึ้น

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมกลุ่มเกษตรกรจังหวัดจันทบุรีที่มีความพร้อมในการรวมกลุ่มเพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้มีความมั่นคงและยั่งยืน และขอให้ใช้ศักยภาพของพื้นที่ที่มีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ในเรื่องของดินและความเหมาะสมของสภาพภูมิอากาศต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในผลิตผลมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งรวมกันทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ผ่านกลไกประชารัฐตามแนวทางนโยบายของรัฐบาล โดยรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินเชื่อ และเครื่องจักรกลการเกษตร แต่จะต้องช่วยกันดูรักษาให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานในการนำไปประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างมีคุณภาพ และกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชนที่มีความตั้งใจ ทุ่มเทในการพัฒนาจังหวัดจันทบุรีร่วมกัน และขอให้การดำเนินงานมีความต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนต่อไป

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมกระบวนการจัดการและควบคุมคุณภาพผลไม้ก่อนส่งออกและกระบวนการประมูลมังคุดแปลงใหญ่ รวมทั้งเยี่ยมชมนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานเกษตรแปลงใหญ่ทั้งเกษตรแปลงใหญ่ไม้ผล และแปลงใหญ่โคนม

------------------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ