วันนี้ (7 ก.ค. 60) เวลา 13.30 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล นายฟิลิปโป กรันดี (Filippo Grandi) ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugees: UNHCR) เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณ UNHCR ในนามรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ที่ร่วมมือกับไทยมาตั้งแต่สมัยสงครามอินโดจีนจนถึงปัจจุบันในการให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัย รวมถึงการทำงานร่วมกับภาครัฐ และ NGOs ต่างๆ เพื่อให้ความคุ้มครองกลุ่มผู้หนีภัย โดยไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับ UNHCR ในการส่งผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมากลับ ตามหลักความสมัครใจ
ในการนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวยินดีที่ UNHCR แต่งตั้ง น.ส. ไปรยา ลุนด์เบิร์ก นักแสดงชาวไทย เป็นทูตสันถวไมตรี UNHCR คนแรกของประเทศไทยและคนแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงการทำงานร่วมกับผู้มีชื่อเสียงชาวไทยคนอื่น เช่น พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี เพื่อส่งเสริมแนวคิดระหว่างความเชื่อและการอยู่ร่วมกันโดยสันติในสังคมพหุวัฒนธรรม (interfaith) และความเชื่อมโยงระหว่างหลักพระพุทธศาสนากับหลักมนุษยธรรม
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า การแก้ปัญหาไม่ใช่เพียงประเทศหนึ่งประเทศใด แต่ทุกประเทศควรร่วมกันแก้ไขปัญหา โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญกับการจัดการและป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุในประเทศต้นทาง ในขณะที่ประเทศแรกรับควรให้การดูแลตามหลักมนุษยธรรม และประเทศปลายทางควรเพิ่มความช่วยเหลือ ทั้งในแง่ของการรับไปตั้งถิ่นฐาน และการให้ความช่วยเหลืออื่นๆ แก่ประเทศต้นทาง และประเทศแรกรับ
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณ UNHCR ที่ร่วมมือกับไทยให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยชาวกัมพูชา ลาว เวียดนาม และเมียนมาจำนวนมาก โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2559 ได้ส่งกลุ่มนำร่องกลับเมียนมาแล้ว 71 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยได้ติดตามดูแลสภาพความเป็นอยู่ของบุคคลเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
ตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวย้ำว่า ไทยให้การดูแลบุคคลเหล่านี้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านการศึกษา สาธารณสุข ความจำเป็นพื้นฐาน รวมทั้งให้พื้นที่พักพิงชั่วคราว โดยหวังว่า UNHCR จะประสานกับรัฐบาลไทยอย่างใกล้ชิด และยังคงให้การสนับสนุนด้าน logistics การขนส่ง รวมถึงคงความช่วยเหลือแก่กลุ่มที่ยังเหลืออยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ ต่อไป ด้านข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ แสดงความขอบคุณและชื่นชมรัฐบาลไทยที่ให้การดูแลกลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับเด็ก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th