นายกรัฐมนตรีขอบคุณประชาชนจ.สุพรรณบุรีและจ.พระนครศรีอยุธยาที่ให้การต้อนรับคณะรัฐมนตรีอย่างอบอุ่น

ข่าวทั่วไป Tuesday September 19, 2017 13:58 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีขอบคุณประชาชนในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรีและจ.พระนครศรีอยุธยาที่ให้การต้อนรับคณะรัฐมนตรีอย่างอบอุ่น โดยรัฐบาลรับจะขับเคลื่อนขยายโรงเรียนชาวนาให้เกิดขึ้นทั่วทุกจังหวัดของประเทศ

วันนี้ (19 ก.ย.60) เวลา 14.00 น. ณ อาคาร 100 ปี ศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายหลัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2560 ได้กล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดและประชาชนทุกภาคส่วนของจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอย่างดีเยี่ยมและอบอุ่น ในโอกาสที่เดินทางลงพื้นที่มาตรวจราชการและพบประชาชน รวมถึงประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 18 – 19 กันยายน 2560 โดยรัฐบาลต้องการที่จะให้ประชาชนทุกพื้นที่ได้รับทราบถึงแนวทางการดำเนินงานของรัฐบาล โดยเฉพาะการเดินหน้าในเรื่องยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อติดตามงาน function ซึ่งรัฐบาลได้พยายามดำเนินการมา 3 ปีแล้ว รวมถึงโครงการใหม่ ๆ ในการดูแลประชาชนกลุ่มเป้าหมายทุกภาคส่วน ทั้งเรื่องการเกษตร SMEs ธุรกิจการค้าต่าง ๆ ซึ่งเมื่อวาน (18 ก.ย.60) ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดภาคกลาง ผู้แทนภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่นจังหวัดภาคกลาง และผู้แทนเกษตรกร ณ โรงแรมคลาสสิค คามิโอ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยที่ประชุมได้พิจารณาหารือในหลายเรื่องทั้งการสร้างความเชื่อมโยงการท่องเที่ยว การบริหารจัดการน้ำ การแก้ปัญหาในพื้นที่ภาคกลาง ฯลฯ ซึ่งหลายเรื่องที่เสนอมาอยู่ในแผนงานโครงการที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ โดยรัฐบาลพร้อมรับหลักการเรื่องดังกล่าวพิจารณาดำเนินการตามลำดับความสำคัญเร่งด่วน และจะเร่งศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องที่ยังไม่ได้มีการศึกษา รวมทั้งปรับแผนงานโครงการให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับลำดับความสำคัญเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล และเร่งรัดในเรื่องของการจัดสรรงบประมาณให้มีความชัดเจน พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ดังกล่าวพบว่าประชาชนมีความพึงพอใจในแผนงานโครงการต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาลที่ลงมาในพื้นที่ โดยประชาชนในพื้นที่มีความเข้ามากขึ้นในเรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องของการสร้างความเชื่อมโยง และการพัฒนาตนเอง เช่น กรณีของผลการดำเนินงานของโรงเรียนเกษตรกรชาวนาจังหวัดสุพรรณบุรี สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรีประชาชนและเกษตรกรมีความเข้าใจเรื่องของการปลูกข้าวมากขึ้นจากเดิมที่ถ่ายทอดประสบการณ์จากบรรพบุรุษมาเป็นการศึกษาในรายละเอียดเรื่องของดิน น้ำ ปุ๋ย การเจริญเติบโตของพืช และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาประกอบการดำเนินการด้วย รวมทั้งได้มีการน้อมนำแนวทางตามพระราชดำริและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี รับที่จะไปเร่งรัดขับเคลื่อนขยายโรงเรียนชาวนาให้เกิดขึ้นทั่วทุกจังหวัดของประเทศ รวมถึงจะให้มีการพิจารณาบรรจุเรื่องของโรงเรียนชาวนาในหลักสูตรการเรียนการสอน โดยได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณาศึกษาทบทวนในการปูพื้นฐานการทำงานตั้งแต่วัยเด็กเพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เกิดความรู้และเข้าใจถึงกระบวนการทำงานอย่างแท้จริงโดยไม่ใช่เป็นเพียงการเรียนเพื่อให้สอบผ่านและจบการศึกษาให้ได้ใบปริญญาเท่านั้น

อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า นอกจากการให้ความรู้ในเรื่องของกระบวนการผลิตและแปรรูปกับเกษตรกรแล้ว ยังต้องมีการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการค้าการลงทุนและการประกอบกิจการด้วยเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้สอดคล้องและตรงกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภคอย่างแท้จริง เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมและป้องกันการถูกกดราคาสินค้า โดยรัฐบาลรับจะไปพิจารณาหาตลาดกลางรองรับสินค้าที่มีคุณภาพ เช่น สินค้าเกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างตลาดที่มีมาตรฐานสูงซึ่งจะขับเคลื่อนผ่านกลไกประชารัฐที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ขณะเดียวกันให้มีการสร้างความเชื่อมโยงเรื่องการท่องเที่ยวข้ามจังหวัดหรือในพื้นที่ที่ศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ซึ่งต้องมีการพัฒนาปรับปรุงสิ่งที่เป็นพื้นฐานของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้สะอาด เรียบร้อย สวยงาม และความมีความปลอดภัยแข็งแรงรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว โดยคำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเหมาะสมเกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นไปตามกฎหมายหรือระเบียบที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณในการบูรณปฏิสังขรณ์และการพัฒนาโบราณสถานหรือของเก่าที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากจึงต้องมีการพิจารณาใคร่ครวญอย่างรอบคอบและดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับจะนำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวยืนยันเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลปัจจุบันว่า รัฐบาลมีการดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณอย่างสมดุล ทั้งในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน การลดความเหลื่อมล้ำ ความเป็นธรรมและการดูแลช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ซึ่งรัฐบาลได้มีนโยบายดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแล้ว เช่น การดูแลเรื่องสินค้าทางการเกษตรต่าง ๆ โดยคำนึงให้สอดคล้องและตรงกับกลุ่มเป้าหมาย การลงทุนในเรื่องของรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง การปรับปรุงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน EEC เป็นต้น

พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่า ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมประชุมดังกล่าว โดยการประชุมฯ ในปีนี้ จะเน้นไปในเรื่องของประชาชน ความสงบ ความเป็นอยู่ที่ดีและยั่งยืน ซึ่งเป็นไปตามแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยประเทศไทยจะนำแนวทางที่ได้ดำเนินการและปฏิบัติจนเกิดผลสัมฤทธิ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาที่สอดคล้องกับแนวทางตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ไปเผยแพร่ให้ชาคมโลกได้รับทราบเพื่อจะได้นำไปเป็นแนวทางในปฏิบัติต่อไป

-----------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ