เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี

ข่าวทั่วไป Wednesday November 8, 2017 15:36 —สำนักโฆษก

เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี

วันนี้ (8 พฤศจิกายน 2560) เวลา 13.30 น. อู มโย มยินตาน (H.E. U Myo Myint Than) เอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณที่ประธานาธิบดีเมียนมาและภริยาได้เดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และขอแสดงความยินดีที่นายอู มโย มยินตาน เข้ามาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อสานต่อการทำงานระหว่างไทย – เมียนมา ให้ดำเนินไปในทิศทางที่ดีต่อไป

ความสัมพันธ์ทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายยินดีกับความสัมพันธ์ระหว่างไทย –เมียนมา ที่มีพัฒนาการในเชิงบวกมาโดยตลอด เห็นได้จากการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับเมียนมาต่อไป เพื่อให้ทั้งสองประเทศเติบโตไปข้างหน้าร่วมกัน ทั้งนี้ ในปี 2561 จะครบรอบ 70 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ฝ่ายไทยจึงสนับสนุนให้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองที่สอดคล้องกับวาระครบรอบดังกล่าว โดยรัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

ด้านเศรษฐกิจ ฝ่ายไทยเน้นย้ำถึงความสำคัญในความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน โดยเฉพาะการค้าชายแดน และการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษต่าง ๆ เพื่อสานต่อความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ

สถานการณ์ในรัฐยะไข่ เอกอัครราชทูตเมียนมาฯ แสดงความขอบคุณทางการไทยที่ให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ซึ่งฝ่ายไทยยินดีให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือแก่เมียนมาต่อไป พร้อมเน้นย้ำว่าประชาคมโลกต่างให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกับอาเซียนและประชาคมระหว่างประเทศสนับสนุนให้เมียนมาแก้ไขปัญหาในรัฐยะไข่อย่างยั่งยืน

ด้านแรงงาน ฝ่ายไทยแสดงความขอบคุณที่เมียนมาให้ความร่วมมือในการจัดระเบียบแรงงานต่างชาติ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกับการส่งเสริมการนำเข้าแรงงานมายังไทยผ่านความตกลงว่าด้วยการจ้างงาน เพื่อประโยชน์สูงสุดของทั้งสองประเทศ

ในช่วงท้าย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้ไทยและเมียนมารักษาปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเช่นนี้ เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม ให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าเอกอัครราชทูตเมียนมาฯ จะประสบความสำเร็จในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีให้แนบแน่นกว่าที่ผ่านมา พร้อมเน้นย้ำว่ารัฐบาลไทยจะให้ความร่วมมือกับเอกอัครราชทูตเมียนมาฯ อย่างเต็มที่ เพื่อความเป็นปึกแผ่นของอาเซียนและความเจริญในภูมิภาคต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ