วันนี้ (20 พ.ย.60) เวลา 14.45 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พบปะนักศึกษา ผู้ปกครอง และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการอาชีวศึกษาทวิภาคีกว่า 5,000 คน ณ อาคารโดมเอนกประสงค์ วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าประเทศต้องการการปฏิรูป จะทำได้หรือไม่ได้ขึ้นกับความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างประชาชนกับรัฐบาล ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีอยากเห็นประเทศก้าวเดินไปข้างหน้าตามศักยภาพที่มีอยู่ ได้แก่ 1) เป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน 2) มีวัฒนธรรมประเพณีที่งดงาม 3) พร้อมเป็นกลไกเชื่อมโยงทุกกิจกรรมในอาเซียน
ประเทศไทยมีกลไกที่เข้มแข็ง เราจะต้องนำกลไกไปสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ Thailand 4.0 มีการสร้างเศรษฐกิจใหม่ ทั้งนี้ประเทศไทยพร้อมเป็นแกนกลางส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ Thailand+1 เชื่อมโยงไปยังภูมิภาค CLMV และ อาเซียน อาเซียนต้องเข้มแข็ง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง สิ่งสำคัญคือต้องเติบโตจากภายใน ตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อย่างไรก็ดี เราต้องรับฟังการประเมินจากภายนอกด้วย
ทั้งนี้รัฐบาลได้อำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ เน้นปราบปรามคอรัปชั่น ให้การดูแล SMEs และ Startup โดยสร้างความเท่าเทียมทางโอกาส คนมีรายได้น้อยต้องได้รับการดูแล เด็กจบใหม่ต้องมีงานทำ โดยสาขาวิชาต้องสอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชน ซึ่งกระทรวงศึกษาต้องดูแลโดยเริ่มตั้งแต่ปฐมวัย ซึ่งรัฐบาลได้วางนโยบายในการขับเคลื่อน สิ่งสำคัญคือทุกคนในสังคมต้องช่วยกันเฝ้าระวัง ความมั่นคง ความบิดเบือนของข้อมูลข่าวสาร ทางโลกออนไลน์ โซเชี่ยลมีเดีย อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ได้บังคับความคิดเห็นทางการเมือง และเคารพสิทธิมนุษยชน
นายกรัฐมนตรีเห็นว่า อาชีวศึกษา เป็นระบบการเรียนที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ต้องผลิตคนให้ตรงกับความต้องการของประเทศ ต้องมุ่งเน้นการปฏิรูปการเรียนรู้เพื่อสร้างความพร้อมในการประกอบอาชีพให้แก่แรงงาน เพื่อให้เด็กมีงานทำ สร้างสังคมที่ดี Smart Thai ซึ่งเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะช่วยตอบโจทย์ในการสร้างงาน สร้างอาชีพได้เป็นอย่างดี
รัฐบาลเร่งปฏิรูปและเสริมสร้างพื้นฐานของสังคมให้เข้มแข็งในทุกด้าน เพื่อให้ประเทศไทยและประชาชนไทยมีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปด้านต่างๆ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ตลอดจนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยยุค 4.0 คือ การมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย S Curve/New S Curve
ในด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและหลากหลาย ทั้งการท่องเที่ยววัฒนธรรม การท่องเที่ยวสาธารณสุข จะต้องสร้างแพคเกจการท่องเที่ยว เที่ยวไทยและเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คนไทยต้องช่วยกันรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมอาชีวศึกษา เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะให้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน และพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษาให้เชื่อมโยงกับมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของสังคมในทุกด้าน รวมทั้งส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมและคิดค้นการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานในภาคอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ของไทยให้มีความเข้มแข็งและทัดเทียมกับนานาประเทศ ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันของประเทศในอนาคต
ที่มา: http://www.thaigov.go.th