รอง นรม.ฉัตรชัยฯ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก ( PIPO) หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลอ่าวน้อย จ.ประจวบขีรีขันธ์

ข่าวทั่วไป Wednesday May 2, 2018 15:01 —สำนักโฆษก

รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก ( PIPO) หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลอ่าวน้อยตามแนวทางแก้ไขปัญหาการทำการประมงที่ผิดกฎหมายอย่างยั่งยืน

วันนี้ (2 พ.ค.61) เวลา 09.30 น. พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (PIPO) หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลอ่าวน้อย ถนนสวนสน ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามแผนปฏิบัติการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของศูนย์แจ้งเข้า - ออกเรือประมง (PIPO) โดยใช้แนวทางการตรวจแบบบูรณาการข้อมูลการทำประมงจากทุกแหล่ง เช่น เส้นทางการทำประมงที่ได้จากระบบติดตามเรือประมง (VMS) สมุดบันทึกทำการประมง (Logbook) โดยนำมาตรวจสอบร่วมกับข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายได้อย่างตรงตัวผู้กระทำผิด ทั้งนี้บนหลักการอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ปฏิบัติตามกฎหมาย บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่ปฏิบัติผิดกฎหมาย ที่ผ่านมา ศูนย์ฯ ประจวบคีรีขันธ์ มีผลการปฏิบัติงานที่ดีเยี่ยมสามารถเป็นแบบอย่างให้กับ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า – ออก อื่นๆได้ นอกจากนั้น รองนายกรัฐมนตรียังได้มอบนโยบายเพิ่มเติมให้ศูนย์ฯ มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกให้กับชาวประมง โดยลดการตรวจเอกสารซึ่งซ้ำซ้อนระหว่างหน่วยงาน เพิ่มความรวดเร็วในการตรวจเรือ และเชื่อมโยงการทำงานเป็นเครือข่ายกับหน่วยงานอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ชาวประมงที่ปฏิบัติตามกฎหมายได้รับความสะดวกรวดเร็วในการออกทำการประมงมากยิ่งขึ้น รองนายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกสำหรับการทำประมงที่ถูกกฎหมาย ส่วนการประมงที่ผิดกฎหมายจะดำเนินการอย่างเข้มงวด จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมกิจกรรมของเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งดำเนินโครงการนำร่อง ชาวประมงดิจิตัล หรือ Digital Artisanal Fisheries โดยเรือประมงพื้นบ้านในเครือข่ายทุกลำจะติดตั้งอุปกรณ์ติดตามเรือของ Pelagic Data System (PDA) ซึ่งมีลักษณะการทำงานเช่นเดียวกับระบบ VMS ที่ติดตั้งในเรือประมงพาณิชย์ โดยระบบ PDA ของเรือประมงพื้นบ้านจะบ่งบอกถึงพฤติกรรมการทำการประมง เครื่องมือทำการประมง การละเมิดวัน/ เวลา/เขตกำหนดการทำการประมง ระบุพิกัดของการจับสัตว์น้ำ การขนถ่ายในทะเล (Transshipment) และ อุณหภูมิของการจัดเก็บสัตว์น้ำ ซึ่งนับได้ว่าเป็นข้อมูลที่มีคุณค่าต่อการทำระบบตรวจสอบ ย้อนกลับแบบดิจิตัล (Digital Traceability) และเมื่อนำมารวมกับการทำกิจกรรมในชุมชนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ระบบนิเวศน์ทางทะเล การทำประมงแบบยั่งยืน และส่งเสริมการรวมกลุ่มเพื่อเฝ้าระวังการทำการประมงผิดกฎหมายในชุมชนประมง ชายฝั่ง ก็จะทำให้ชุมชนประมงพื้นบ้านกลายเป็นชาวประมงดิจิตัล ที่สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคผ่าน เทคโนโลยีการสื่อสาร (Application) และสื่อออนไลน์ให้ทำการสนับสนุนการทำประมงยั่งยืนโดยการ สนับสนุนสินค้าของชาวประมงที่ทำการประมงอย่างยั่งยืนและมีระบบตรวจสอบย้อนกลับแบบดิจิตัลทำให้ รู้ถึงแหล่งที่มาของอาหารทะเลและพฤติกรรมการทำการประมง สำหรับเครือข่ายประมงพื้นบ้านนี้ตั้งอยู่ที่ บ้านทุ่งน้อย อ.กุยบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ เป็นชุมชนที่มีความหลากหลายของขนาดเรือ ชนิดของ เครื่องมือทำการประมง และชนิดของสัตว์น้ำ ตลอดจนมีการรวมกลุ่มเป็นชุมชนชาวประมงที่เข้มแข็ง โดยได้มีการรวมกลุ่มทำการขายสินค้าอาหารทะเลจากการทำการประมงยั่งยืนให้กับผู้บริโภคโดยตรงใช้ชื่อว่า “คนทะเล” โดยมีการกำหนดกฎกติกาชุมชนของการทำประมง (Code of Conduct) จึงนับได้ว่าเป็นชุมชนที่มีความพร้อม รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับชาวประมงพื้นบ้านโดยยินดีให้การสนับสนุนกับกิจกรรมที่ส่งเสริมการทำประมงอย่างยั่งยืน ชุมชนนี้นับเป็นต้นแบบของการยกระดับมาตรฐานการประมงพื้นบ้านโดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ราคาถูก แต่ได้รับข้อมูลครบถ้วนในการตรวจสอบย้อนกลับสัตว์น้ำที่จับได้และนำออกสู่ตลาด สร้างความโปร่งใสในการทำประมงของชาวประมงพื้นบ้านทำให้เกิดความมั่นใจในการบริโภค ดังนั้นจึงสั่งการให้กรมประมงใช้โครงการนี้เป็นต้นแบบในการส่งเสริมและพัฒนาชุมชนประมงท้องถิ่นซึ่งระบุไว้ว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลตามมาตรา 25 ของ พรก.ประมง

นอกจากนั้น รองนายกรัฐมนตรียังสั่งการเพิ่มเติมให้ ศปมผ. เร่งรัดจัดทำแผนการทำงานร่วมกับชาวประมงพื้นบ้านเพื่อให้เป็นเครือข่ายในการติดตาม เฝ้าระวัง และควบคุมการทำประมงภาดประชาชน เพราะการแก้ไขปัญหาการทำการประมงที่ผิดกฎหมายนั้นภาครัฐไม่สามารถดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้เลยหากขาดความร่วมมือและการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน ซึ่งจากการพบปะกับชาวประมงพื้นบ้านวันนี้ได้รับคำยื่นยันว่าประมงพื้นบ้านพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับแนวทางของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงที่ผิดกฎหมายเพื่อนความยั่งยืนมาสู่ท้องทะเลไทย

……………………………………………………………………………….

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ