รอง นรม. พลเอก ประวิตรฯ เป็นประธานการประชุมบูรณาการการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กำชับให้บูรณาการแก้ไขปัญหาการจราจรให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ข่าวทั่วไป Thursday May 17, 2018 15:20 —สำนักโฆษก

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงคมนาคม พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดนโยบายของรัฐบาลในการบูรณาการแก้ไขปัญหาการจราจรให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ

วันนี้ (17 พฤษภาคม 2561) เวลา 10.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมบูรณาการการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้

ที่ประชุมรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 205/2559 เรื่องแต่งตั้งอนุกรรมการบูรณาการการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งลงนามโดย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานอนุกรรมการ และมีคณะอนุกรรมการประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อธิบดีกรมเจ้าท่า อธิบดีกรมการขนส่งทางบก อธิบดีกรมทางหลวง อธิบดีกรมทางหลวงชนบท อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้ว่าทางการพิเศษแห่งประเทศไทย ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ตลอดจนผู้บังคับการตำรวจนครบาลทุกพื้นที่ ในกรุงเทพมหานคร โดยมีผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการบูรณาการ อำนวยการ สั่งการ กำกับดูแล พร้อมตรวจสอบเร่งรัดติดตาม ตลอดประเมินผลกำหนดแนวทางการประสานงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล นำไปสู่การแก้ไขปัญหาปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (จังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี) รวมทั้งจังหวัดที่สำคัญในที่ใกล้เคียง (จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร)

ทั้งนี้ ประธานฯ ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่มาร่วมประชุมบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ เพื่อจะได้ประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างมีแบบแผน เป็นขั้นตอนที่ชัดเจนทั้งระบบอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้การดำเนินงานครั้งนี้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายการบริหารราชการด้านจราจรของรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งได้เกิดผลสัมฤทธิ์ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวม

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณา และมีมติเห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการจราจรในช่วงเปิดภาคการศึกษา ประจำปี 2561 ซึ่งมีจุดวิฤกตอยู่ 3 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 กลุ่งโรงเรียนบริเวณถนนสามเสน ถนนนครราชสีมา และถนนราชวิถี จุดที่ 2 กลุ่มโรงเรียนบริเวณถนนสาทร และถนนเจริญกรุง รวมทั้ง จุดที่ 3 กลุ่มโรงเรียนบริเวณถนนเพชรบุรี ถนนอโศก ถนนเพลินจิต และถนนสุขุมวิท ทั้งนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาทั้ง 3 จุด ดังกล่าว โดยยึดถือการบริหารจราจรอย่างเคร่งครัด

ในตอนท้ายของการประชุม ประธานฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตลอดจนจังหวัดใกล้เคียงให้เกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพอย่างเข้มข้นและฉับไว โดยสรุป คือ ให้กำหนดเรื่องนี้เป็นวาระสำคัญด้วยการใช้กลไกของคณะอนุกรรมการฯ ที่ออกโดยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวนั้น เป็นการตั้งคณะทำงานแต่ละชุดเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบอย่างชัดเจนด้วยความต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ หากมีปัญหาขัดข้องใด ๆ เกิดขึ้นระหว่างทำงานให้มีการปรึกษาหารือพร้อมประชุมทันทีทันใด เพื่อให้ได้ข้อยุติ และเสนอประธานโดยเร่งด่วน ขณะเดียวกันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องกวดขันในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับการจราจรและการขนส่งทางบก โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้กระทรวงคมนาคมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด รวมทั้ง การมีรถ Shuttle Bus บริการประชาชนในจุดเชื่อมสำคัญของระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT รถไฟฟ้า BTS และการขนส่งทางน้ำ เพื่อให้ความสะดวกสบายประชาชนอย่างมีคุณภาพ พร้อมทั้งให้กรุงเทพมหานครปรับจุดกลับรถในพื้นที่ถนนให้มีความคล่องตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์ทำการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารทุกช่องทางเกี่ยวกับการให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง พร้อมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการใช้บริการขนส่งสาธารณะ แล้วนำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ปรับปรุงงานบริการ แก่ประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้นด้วย

พร้อมกันนี้ หากมีรถยนต์เสียทั้งรถสาธารณะหรือรถยนต์อื่น ๆ ขอให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ที่กีดขวางทางจราจร ตลอดจนในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ประธานกำชับให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และภาค 7 มามีส่วนร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในการแก้ไขเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรในช่วงดังกล่าว ให้มีความคล่องตัวในการจราจร รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชนด้วยการเคารพกฎจราจร โดยเคร่งครัดด้วยเช่นกัน

...............................................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ