สรุปประเด็นนายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2561

ข่าวทั่วไป Friday June 1, 2018 16:17 —สำนักโฆษก

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับประชาชนผ่านรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในวันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2561 เวลา 20.15 น. ในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้

เนื่องในโอกาส “วันงดสูบบุหรี่โลก” (31 พ.ค. 61) และ “วันดื่มนมโลก” (1 มิ.ย. 61) ของทุกปี

จึงมีการรณรงค์ให้ทำในสิ่งที่ดี คือ การดื่มนม และละเว้นในสิ่งที่ไม่ดี คือ การงดสูบบุหรี่ ซึ่งตรงกับคำสอนของพระพุทธศาสนาที่ว่า “ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์” ทั้งนี้ ศาสนาอื่น ๆ ยังมีคำสอนของพระศาสดาที่ไม่แตกต่างกันนัก มุ่งสอนให้ทุกคนเป็นคนดี อีกทั้ง รัฐบาลได้มีแนวทางในการผลักดัน พ.ร.บ.ยาสูบ (ฉบับใหม่) ในปีที่ผ่านมานั้น โดยมีเจตนาที่ต้องการจะปกป้องเยาวชนไม่ให้เป็นนักสูบหน้าใหม่ คุ้มครองผู้คนรอบข้างให้ปลอดภัย ไม่ให้เป็น “ผู้รับควันบุหรี่มือสอง” และลดจำนวนผู้สูบลง อาทิ การห้ามขายบุหรี่ให้เด็ก การจำกัดพื้นที่สูบ การจำกัดช่องทางการเข้าถึง เป็นต้น ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจอยากเลิกบุหรี่ สามารถโทรปรึกษารับคำแนะนำ ได้ที่ “สายด่วน 1600” ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ

สำหรับสถิติที่คนไทยดื่มน้ำอัดลม เป็นอันดับ 1 ของอาเซียนการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นอันดับ 5 ของโลก แต่กลับดื่มนมอยู่ในอันดับที่ 68 ของโลกนั้น รัฐบาลจึงพยายามสนับสนุนให้คนไทยดื่มนมมากขึ้น และมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรโคนม พร้อมเสริมสร้างสุขภาพคนไทยให้แข็งแรง โดยงดเว้นการสูบบุหรี่ รวมทั้ง สนับสนุนส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากข้าวให้มากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มรายได้ตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลได้สนับสนุนให้เกษตรกรเพาะปลูกข้าวพันธุ์ กข 43 ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณสมบัติพิเศษ เพราะว่ามีปริมาณน้ำตาลต่ำ โดยได้ผ่านการวิจัยรับรองคุณสมบัติ จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะแพทยศาสตร์ฯ ของสถาบันอุดมศึกษาแล้ว ซึ่งจะเป็นการขยายผลการค้าให้มีมูลค่าสูงและน่าสนใจเชิงพาณิชย์มากขึ้น

ช่วงสัปดาห์นี้ เป็นวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ (5 มิ.ย. 61) นี้ นายกรัฐมนตรีจึงขอเชิญชวนพี่น้องเกษตรกรและผู้ที่สนใจ ได้สัมผัสวิถี “ชาวนาไทย ยุค 4.0” ตามนโยบายรัฐบาล ประกอบด้วยนโยบายตลาดนำการผลิต โครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ โครงการประกันภัยข้าวนาปี ตลอดจนการผลิตสินค้าแปรรูปจากข้าวเพื่อสุขภาพและความงาม รวมทั้งนวัตกรรมจากงานวิจัย ผสานกับภูมิปัญญา พร้อมทั้งการปฏิรูป การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของรัฐบาล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ และการเชื่อมโยงกันเป็นระบบนำไปสู่ประสิทธิภาพสูงสุด โดยร่วมกับคณะทำงานร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ได้ตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อดำเนินการอย่างเป็นเอกภาพ ด้วยการรวมหน่วยงานที่เกี่ยวกับน้ำไว้ด้วยกัน โดยการดำเนินการอย่างมียุทธศาสตร์ และมีการจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2679) ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้วยการส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน การร่วมมือกันของรัฐบาลทั่วโลก โดยยึดตามกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมส่งเสริมศักยภาพคนรุ่นใหม่ในการแก้ปัญหาน้ำและสุขาภิบาล อีกทั้งการเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ของ องค์กรสหประชาชาติ (UN) อีกด้วย

ทั้งนี้ การบริหารจัดการน้ำสำหรับภาคการผลิตที่สำคัญของประเทศ ไว้รองรับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน พร้อมทั้งประเทศไทยและต่างประเทศ เนื่องจากเป็นกลไกสำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศในยุคดิจิทัล ซึ่งต้องมีการศึกษาแนวเส้นทางการก่อสร้างระบบท่อส่งน้ำ ให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนภายในประเทศ รวมทั้งป้องกันน้ำท่วมพื้นที่สำคัญของ EEC ด้วย อีกทั้ง แนวทางการตามบริหารจัดการความต้องการ การลดการใช้น้ำ การใช้น้ำซ้ำ การผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล และการหาแหล่งน้ำสำรองของอุตสาหกรรม

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำเพื่อชุมชนหนองบัวลำภูโมเดล

หรือโครงการระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยจากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนจังหวัดหนองบัวลำภู (21 มี.ค. 61) ที่ผ่านมานั้น ทางจังหวัดได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาความยากจน และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ด้วยการปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร การพัฒนาแหล่งน้ำใต้ดิน เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีน้ำทำการเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี มีรายได้ต่อเนื่องและมั่นคง โดยร่วมกับการนำเทคโนโลยีระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell) มาปรับใช้ เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยนำร่องในพื้นที่กลุ่มเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ 58 กลุ่ม รวมทั้งพื้นที่ทำเกษตรแปลงใหญ่ตามนโยบายรัฐบาล ตลอดจนเกษตรทฤษฎีใหม่เกษตรผสมผสาน ในการปลูกพืชทางเลือก เพื่อลดความเสี่ยงในการใช้สารเคมี ทำให้ได้ผลผลิตปลอดภัยและสร้างรายได้สูงด้วย ซึ่งนับว่าเป็นตัวอย่างการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วม ที่เกิดจากความเข้มแข็งของชุมชน โดยรัฐบาล

สำหรับจากการประเมินการรับรู้ประชาชน (DDC poll) เรื่องโรคไข้เลือดออก ซึ่งในปีนี้

มีแนวโน้มการระบาด พื้นที่เสี่ยงอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน โดยรูปแบบของการระบาดเปลี่ยนไป มีการเสียชีวิตในผู้ใหญ่มากขึ้น เนื่องจาก มีโรคประจำตัวด้วย เช่น ภาวะอ้วน เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือด ที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต สำหรับใครที่มีอาการเหล่านี้ คือ มีอาการไข้สูง 2 วัน ไม่ดีขึ้น ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ปวดเมื่อย หน้าตาแดง อาจมีผื่นขึ้นใต้ผิวหนังตามแขนขา ข้อพับ เป็นต้น ให้สังเกตตนเองและลูกหลานด้วย โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงเรื่องสะท้อนสังคมที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

ในลักษณะการแจ้งเตือนภัย เพื่อให้ได้รู้ขั้นตอนการทำงานและรู้วิธีการรับมือกับสิ่งเลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ซึ่งมีเครือข่ายในโซเชียล เช่น เพจ Because We Care เพจแหม่มโพธิ์ดำ และเพจ Drama-Addict ที่เปิดรับเรื่องร้องเรียน ขอความช่วยเหลือของเด็กเยาวชน สตรี และผู้ถูกกระทำรุนแรง เมื่อมีการแจ้งเหตุความรุนแรงที่พบเห็นจะสอบถามข้อมูลเบื้องต้น จากนั้นสร้างระบบการให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ครบวงจร และสามารถส่งต่อเคสไป เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือที่ดีที่สุด พร้อมที่สุด โดยสามารถลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และทันต่อสถานการณ์ ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดี เนื่องจากเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งภาคประชาชนที่ได้ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโดยตรง จำเป็นอีกที่พึ่งของพี่น้องประชาชน ซึ่งรัฐบาลยินดีและพร้อมให้การสนับสนุนและให้กำลังใจทุกภาคส่วนในการร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือเพื่อส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม

………………………………………………….....

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ