สรุปประเด็นนายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม 2561

ข่าวทั่วไป Friday July 13, 2018 13:36 —สำนักโฆษก

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับประชาชนผ่านรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในวันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม 2561 เวลา 20.15 น. ในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้

จากเหตุการณ์ผู้ประสบภัยนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ช่วยโค้ช “ทีมหมูป่าอะคาเดมี” ที่ติดอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นระยะเวลา 17 วัน โดยภารกิจการค้นหาและกู้ภัย ที่เกิดจากการบูรณาการของพลังประชารัฐ นับเป็นปฏิบัติการกู้ภัยครั้งประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ที่ไม่มีเส้นแบ่งทางชนชาติหรือศาสนาต่างทำงานเพื่อเป้าหมายร่วมกัน คือ การรักษา 13 ชีวิตในถ้ำ จนประสบความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ตลอดจนการจัดทำแผนบทเรียนในการแก้ไขข้อบกพร่อง และการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต โดยโมเดล “ถ้ำหลวง” นี้ จะต้องถูกนำไปขยายผลกับทุกแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ทั่วประเทศ

ด้านมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมมีระบบเตือนภัยและแผนเผชิญเหตุ ซึ่งกำหนดช่องทางการสื่อสารเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินและกำหนดผู้ปฏิบัติที่ชัดเจน ตลอดจนการให้ความรู้เบื้องต้นแก่ประชาชนในท้องถิ่น พร้อมให้คำแนะนำการปฏิบัติป้องกันอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอุปกรณ์กู้ภัยประจำหน่วยที่ต้องมีแผนการจัดหาใหม่ ให้ทันสมัย เพื่อประโยชน์ต่อทางราชการในการบรรเทาสาธารณภัยได้ทันท่วงที อีกทั้ง บัญชีผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก สามารถขอความร่วมมือได้ในอนาคต ที่สำคัญจะต้องมีการซักซ้อมแผนการปฏิบัติต่าง ๆ ภายในหน่วยงาน และระหว่างหน่วยงาน เพื่อให้แผนสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง โดยถ่ายทอดแนวคิด รวมทั้งเตรียมแผนรองรับในการฟื้นฟูถ้ำหลวงให้คงสภาพเดิมไว้อย่างดีที่สุด เพื่อเป็นเครื่องบันทึกความทรงจำในทุกแง่มุมที่น่าศึกษา พร้อมเก็บเรื่องราวสำคัญ ๆ ไว้ทั้งหมด ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ภาพประวัติของ จ่าเอก สมาน กุนัน “วีรบุรุษถ้ำหลวง” ที่สละชีพ เพื่อภารกิจที่เต็มเปี่ยมด้วยอุดมการณ์ และ ร่วมจัดทำอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์การช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมีนี้ ด้วยการสร้างอนุสาวรีย์ ให้กับ “จ่าแซม” บริเวณปากถ้ำหลวงนี้

จากเหตุการณ์เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต (5 ก.ค. 61) ที่ผ่านมานั้น เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียครั้งมหาศาลของเพื่อนมนุษย์ ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการฟื้นฟู ตามที่ปรากฏในข่าวตามสื่อต่าง ๆ รวมทั้ง มาตรการช่วยเหลือเยียวยาตามกฎหมายอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาขวัญและกำลังใจแก่ญาติผู้สูญเสีย คือการค้นหาสาเหตุ การบังคับใช้กฎหมาย และรักษาระดับมาตรฐานสากล เพื่อความปลอดภัยในการให้บริการ พร้อมทั้งตรวจจับผู้ละเมิดมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย และกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดอีกด้วย

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเพิ่มเติมว่า เดือนกรกฎาคมนี้ เป็นเดือนแห่งมหามงคล ซึ่งตรงกับ “วันเฉลิมพระชนมพรรษา” สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอเชิญชวนให้พสกนิกรชาวไทยทุกภาคส่วน ได้ร่วมใจกันแต่งกายสีเหลืองตลอดทั้งเดือนอย่างพร้อมเพรียงกัน พร้อมทั้งร่วมกันปลูกป่าหรือปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ โดยเฉพาะ “ต้นรวงผึ้ง” เป็นต้นไม้ประจำพระองค์ เนื่องจากมีดอกสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ และจะผลิดอกช่วงวันพระราชสมภพ เพื่อเป็นตัวแทนแห่งพระองค์ท่าน และเป็นสิริมงคลแก่ราษฎรในพื้นที่ ได้ร่วมกันรณรงค์ปลูก “ต้นไม้ประจำจังหวัด” ของตนเอง ให้เป็นทิวแถวสวยงาม หรือสลับสีสันให้งดงาม รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับต้นไม้ประจำจังหวัดอีกด้วย ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงต้องการให้ราษฎรมีอาหารไว้กินไว้ใช้อย่างยั่งยืน ด้วยทรงเป็นห่วงว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและสภาพแวดล้อม จะส่งผลให้โลกขาดอาหาร เปรียบเสมือนการสร้างธนาคารอาหาร ของครัวเรือนหรือชุมชนที่ได้รับประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่นยืน

…………………………………………………………..

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ