รอง นรม.พล.อ.ฉัตรชัย ฯ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU)

ข่าวทั่วไป Tuesday July 17, 2018 13:22 —สำนักโฆษก

ที่ประชุมเห็นชอบ โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน

วันนี้ ( 16 กรกฎาคม 2561) เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม 302 ตึกบัญชาการ1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลการประชุมสรุปสาระสำคัญดังนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการประชุมใหญ่คณะกรรมาธิการการประมงแห่งรัฐสภายุโรป ที่รัฐสภาสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 ตามที่ได้อนุมัติให้ นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตประจำสหรัฐอเมริกา ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายกับสหภาพยุโรป พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงความก้าวหน้าการทำงานของประเทศไทย เนื่องจากคณะกรรมาธิการการประมงแห่งรัฐสภายุโรปถือเป็นกลไกนโยบายระดับสูงที่มีความสำคัญมาก เป็นที่น่ายินดีว่า รัฐสภาสหภาพยุโรปมีความเข้าใจในความพยายามอย่างหนักของประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายทุกมิติ ทั้งด้านการประมงและแรงงานภาคประมง ซึ่งท่าทีอย่างเป็นทางการและได้ถูกบันทึกไว้ในรายงานการประชุมและเผยแพร่อย่างกว้างขวาง เปิดเผย ผ่าน Website www.europarl.europa.eu นับเป็นท่าทีทางบวกต่อการทำงานของไทยครั้งสำคัญที่สุดด้วย

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบ โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบเพื่อการจัดการทรัพยากรประมงทะเลที่ยั่งยืน หรือ ซื้อเรือคืน ตามแผนบริหารจัดการประมงทะเล ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ( 3 พฤศจิกายน 2558) สำหรับเรือประมงที่จะเข้าโครงการนี้จะต้องเป็นเรือประมงที่ไม่มีใบอนุญาตทำการประมง แจ้งจุดจอด ตรึงพังงา และจัดทำ UVI (อัตลักษณ์เรือ) จากกรมเจ้าท่าเรียบร้อยแล้ว และไม่มีคดีใด ๆ โดยจัดซื้อในราคาตามสภาพจริง แต่จะไม่เกินร้อยละ 50 ของราคากลางที่ได้จัดทำไว้ตั้งแต่ปี 2558 เรียบร้อยแล้ว จำนวน 680 ลำ ในกรอบวงเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท แบ่งการจัดซื้อเป็น 3 ระยะ ระยะแรกจะเริ่มจากเรือประมงขนาดเล็กและกลาง (10 – 60 ตันกรอส) จำนวน 409 ลำ วงเงินประมาณ 690 ล้านบาท เมื่อได้ดำเนินการระยะแรกเสร็จสิ้น ที่เหลืออีก 271 ลำ ซึ่งเป็นกลุ่มเรือขนาดใหญ่จะดำเนินการต่อไป คาดว่าประมาณกลางเดือนสิงหาคมนี้ จะสามารถจัดซื้อเรือคืนได้โดยระยะแรกจะดำเนินการได้ภายใน 30 กันยายน 2561 การซื้อเรือคืนครั้งนี้นอกจากเป็นการลดจำนวนเรือประมงให้เหมาะสมกับปริมาณปลาเพื่อการประมงที่ยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลแล้ว ยังช่วยบรรเทาผลกระทบจากการแก้ไขปัญหา IUU อีกด้วย

...............................................................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ