สรุปประเด็นนายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2561

ข่าวทั่วไป Friday July 27, 2018 14:12 —สำนักโฆษก

สรุปประเด็นนายกรัฐมนตรีกล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2561

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับประชาชนผ่านรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในวันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2561 เวลา 20.15 น. ในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ตั้งแต่ทรงดำรงพระราชฐานะพระรัชทายาท เมื่อเสด็จขึ้นทรงราชย์ ทรงห่วงใยและทรงคำนึงถึงประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์เป็นสำคัญ โดยมีพระราชประสงค์ที่จะสนองพระราชปณิธานในสมเด็จพระบรมชนกนาถ ด้วยการ “สืบสาน รักษา และต่อยอด” ศาสตร์พระราชาและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และประเทศชาติเจริญก้าวหน้า มั่นคง ทรงพระราชทานความสุขแก่ประชาชน โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ใช้พระลานพระราชวังดุสิต จัดการแสดงดนตรี จัดงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร รวมถึงเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาติและวิถีชีวิตของคนไทยในอดีตถึงปัจจุบัน ทรงส่งเสริมสืบสาน ศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาติ ได้แก่ งานเถลิงศกสุขสันต์ มหาสงกรานต์ตำนานไทย และงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และมีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการ “จิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ” เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และทุกจังหวัด ทั่วประเทศ

รวมทั้งทรงห่วงใยประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ จากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผู้แทนพระองค์ไปมอบสิ่งของพระราชทาน พร้อมเชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยและให้กำลังใจ และพระราชทานทุนการศึกษาแก่เด็กที่ยากจน และด้อยโอกาส มีรับสั่งให้องคมนตรีดูแลติดตามเรื่องการศึกษา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพคนไทยให้มีพื้นฐานชีวิตเข้มแข็ง ตลอดจนพัฒนาระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทรงอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา ทรงปลูกฝังให้ชาวไทยปฏิบัติธรรม สวดมนต์สรรเสริญคุณพระรัตนตรัยในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและวันสำคัญอันเกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช เพื่อแสดงกตัญญุตาคุณ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์บทเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมทั้งทรงออกแบบปกด้วยพระองค์เองพระราชทานแก่ข้าราชบริพารและประชาชน อีกทั้ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ณ ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2561 นี้ ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทย รวมใจเป็นหนึ่งเดียวแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีด้วยการร่วมขับร้องบทเพลง “สดุดีจอมราชา” โดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศในพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน สถิตเป็นพระมิ่งขวัญปกเกล้า ปกกระหม่อมอาณาประชาราษฎร์ ตราบกาลนาน

ในช่วงสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาขอนำ “หลักอธิปไตย” ในการบริหารประเทศที่ยึดถือมาตลอดชีวิต โดยเฉพาะการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปประเทศในปัจจุบัน ซึ่งในทางพระพุทธศาสนาได้ พูดถึงการใช้อำนาจของผู้บริหารหรือเรียกว่า “อธิปไตย” ได้แก่ อัตตาธิปไตย ถือตนเป็นใหญ่ ไม่ฟังเสียงของผู้ร่วม โลกาธิปไตย ถือโลกเป็นใหญ่ นิยมให้ลูกน้องเอาใจ ยกยอสรรเสริญ และ ธรรมาธิปไตย คือ ถือธรรมะเป็นใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรเป็นมากที่สุดเพราะ หมายถึง ความจริง ความถูกต้อง ความดีงาม ประโยชน์สุขที่แท้จริง จากหลักธรรมดังกล่าว รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาและวางรากฐานการพัฒนาประเทศ โดยก้าวข้ามกับดักให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ สามารถสร้างความเชื่อมั่นและไว้ใจ จากประชาคมโลกได้ ทั้งนี้ องค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก (WIPO) ได้เปิดเผยรายงานการประเมินผล “ดัชนีนวัตกรรมโลก” ประจำปี 2561 ประเทศไทยมีอันดับดีขึ้นถึง 7 อันดับ จากอันดับที่ 51 ในปีที่แล้ว มาเป็นอันดับที่ 44 ในปีนี้ จากทั้งหมด 126 ประเทศทั่วโลก

นอกจากนี้ ยังถูกจัดให้เป็นผู้นำในหลายด้าน เช่น การส่งออกสินค้าสร้างสรรค์ สินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง การจดทะเบียนอนุสิทธิบัตรและการเป็น “1 ใน 20 ประเทศ” ที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาด้านนวัตกรรม

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางเยือนประเทศภูฏาน ระหว่างวันที่ 19 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมานั้น เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือให้แน่นแฟ้นในทุกมิติ ทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว สาธารณสุข และการพัฒนาประเทศตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่งที่สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินี มีพระบรมราชานุญาต ให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระราชวังทาชิโช อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อมโยงทางพุทธศาสนา สังคม และวัฒนธรรม โดยเฉพาะสถาบันกษัตริย์ อันเป็นจุดเชื่อมโยงจิตใจของประชาชนทั้งสองประเทศด้วย ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่อยู่ในบริบทของความร่วมมือทางวิชาการ โดยเฉพาะปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่สอดคล้องกับทฤษฎีความสุขมวลรวมประชาชาติ (Gross National Happiness - GNH) ของภูฏาน สำหรับโครงการความร่วมมือที่สำคัญ ประกอบด้วยโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โครงการผลิตภัณฑ์ OGOP (One Gewog One Product) ของภูฏาน และโครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบทางการเกษตร ในพระราชดำริของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีฯ ณ เมืองพูนาคา ซึ่งได้น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้เป็นต้นแบบ ในการออกแบบโครงการด้านระบบชลประทาน ตลอดจนการบริหารจัดการน้ำ สำหรับโครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ฯ

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการเดินทางไปตรวจราชการกลุ่มจังหวัด ระหว่าง วันที่ 23 – 24 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมาว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 หรือที่จังหวัดราชธานีเจริญศรีโสธร เป็นการลงพื้นที่ ติดตาม ประเมินผล การขับเคลื่อนในระดับปฏิบัติของแต่ละภูมิภาคของประเทศ ซึ่งกลุ่มจังหวัดดังกล่าว แม้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำการเกษตร มีผลผลิตทางการเกษตรที่หลากหลาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ที่ได้รับรองมาตรฐานเพิ่มขึ้นและเป็นพื้นที่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป รวมทั้ง ยังมีภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเป็นระยะทางยาว มีจุดผ่านแดน ทั้งจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรน รวม 9 ช่องทาง และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่โดดเด่นอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ เนื่องจากโครงการพัฒนาต่าง ๆ ในอดีตไม่กระจายมาถึงที่นี่ ไม่มียุทธศาสตร์ที่ต่อเนื่อง ซึ่งในโครงการต่าง ๆ ที่เสนอมา หากสามารถเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติและมีความจำเป็นเร่งด่วน ก็ต้องพิจารณาปรับให้มาดำเนินการให้เร็วขึ้น เช่น การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ทั้งทางถนน ทางราง และทางอากาศ เพื่อการท่องเที่ยวและเชื่อมโยงการค้าชายแดน การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและแก้ไขปัญหาอุทกภัย การยกระดับการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นต้น

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่ารัฐบาล โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เตรียมจัดงาน “Thailand Social Expo 2018” ระหว่างวันที่ 3 – 5 สิงหาคม ณ Hall 5 – 8 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเกิดจากองค์กรภาคีเครือข่ายด้านสังคม ด้วยการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ตามแนวทางประชารัฐ พร้อมด้วยหลักการทำงานตามแนวคิด “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” นับว่าเป็นงานมหกรรม ด้านสังคมครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อเตรียมก้าวเข้าสู่บทบาทนำในประชาคมอาเซียนในปีหน้า ทั้งนี้ ภายในงานประกอบด้วย 4 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 การประชุมวิชาการ เสวนา ปาฐกถา การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้านการพัฒนาสังคมและการนำเสนอรายงานสถานการณ์ ทางสังคม โซนที่ 2การแสดงผลงานนวัตกรรม ด้านสังคมของประเทศไทย เป็นนวัตกรรมเพื่อพัฒนาสังคมต้นแบบที่ดี ของการพัฒนาสังคมเทคโนโลยี เพื่อสังคม โซนที่ 3 การแสดงผลิตผลด้านสังคมของภาคีเครือข่ายทุกภาคและโซนที่ 4 การแสดงศักยภาพของกลุ่มเป้าหมายและภาคีเครือข่าย เพื่อเสริมสร้างเจตคติที่ดี และสร้างสรรค์ของคนในสังคม

ตอนท้ายของรายการฯ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงงาน “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เดิน – วิ่ง การกุศล” เพื่อหาเงินรายได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งทั่วประเทศ อีกทั้งเป็นการสนองพระปณิธานใน (ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ที่ทรงมุ่งหวังให้ประชาชนมีสุขภาพดี และมีคุณภาพที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะผู้ป่วยยากไร้ในท้องถิ่นห่างไกล ให้ได้รับโอกาสเข้าถึงการบริบาล ด้านสาธารณสุข ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน โดยสามารถร่วมสร้างกุศล ด้วยการร่วมกิจกรรมเดิน – วิ่ง ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 หรือร่วมแสดงพลังน้ำใจคนไทยด้วยการสมทบทุน ตามช่องทางต่าง ๆ พร้อมรายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ www.crcharityrun.com หรือโทรฯ 064-585-5230, 064-585-5256, 064-585-5257

………………………………………………….

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ