วันนี้ (17 ก.ย.61) เวลา 08.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นอาคารหลังใหม่ จำนวน 4 ชั้น เพื่อรองรับประชาชนและผู้มารับบริการที่คลินิกหมอครอบครัวได้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอาคารหลังเดิมไม่สามารถรองรับประชาชนได้เพียงพอ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุขในการก่อสร้างอาคารดังกล่าว จำนวน 44 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 14 เดือน แล้วเสร็จเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 2561 และเริ่มทดลองใช้อาคารดังกล่าวสำหรับรองรับประชาชนที่มารับบริการที่คลิกนิกหมอครอบครัวแล้ว พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการดำเนินงานของคลินิกหมอครอบครัว โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลา ตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี นายปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุข และประชาชนในพื้นที่ จำนวน 400 คน ให้การต้อนรับและเข้าร่วมพิธี
สำหรับคลินิกหมอครอบครัวโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลา ตั้งอยู่ในพื้นที่และอาคารบริการสุขภาพเดิมของเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ เลขที่ 529 ถนนพระพุทธบาท ตำบลในเมือง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดดำเนินการในปี พ.ศ. 2559 โดยมีการทำข้อตกลงร่วมกันในการดำเนินการระหว่างเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ และโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ซึ่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เป็น 1 ใน 16 จังหวัดพื้นที่นำร่องคลินิกหมอครอบครัวที่ได้ดำเนินการตั้งแต่ระยะแรก ในเดือนเมษายน 2559 และในเดือนกันยายน 2559 ได้เป็น 1 ในโรงพยาบาลที่มีความพร้อม 8 แห่งที่สามารถจัดหาพื้นที่สำหรับขยายงานให้ครอบคลุมการดูแลประชาชนในพื้นที่ รวมทั้ง ขณะนี้คลินิกหมอครอบครัวคลองศาลา โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ยังเป็น 1 ใน 50 พื้นที่ต้นแบบที่ดำเนินการภายใต้แผนปฏิรูประบบปฐมภูมิอีกด้วย
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นการพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพ ภายใต้การจัดบริการของคลินิกหมอครอบครัว (PCC: Primary care cluster) ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่กำหนดให้มีระบบการแพทย์ปฐมภูมิที่มีแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวดูแลประชาชนในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยการดำเนินการคลินิกหมอครอบครัวโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ สาขาคลองศาลาใช้หลักการเวชศาสตร์ครอบครัว ดูแลบริการสุขภาพทั้งในสถานบริการสุขภาพและรุกเข้าไปในชุมชนหรือสถานที่ทำงานของประชาชนอย่างเหมาะสม ช่วยลดความแออัดในการไปใช้บริการที่โรงพยาบาล ลดระยะเวลาการรอคอยที่โรงพยาบาลใหญ่ และลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ทำให้สามารถดูแลประชาชนในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ครอบคลุมทุกมิติทั้งการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ การควบคุม ป้องกันโรคและการฟื้นฟูสภาพ ทั้งในระดับหน่วยบริการไปจนถึงบ้านของประชาชน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศต้องการที่จะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา และการสาธารณสุข ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้ดีขึ้นให้ได้โดยเร็ว โดยการเดินทางมาเปิดอาคารศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ทำให้ได้เห็นถึงความก้าวหน้าของการดำเนินงานของคลินิกหมอครอบครัว ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลปัจจุบันที่ทำให้เกิดระบบ Primary care cluster ต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยการดำเนินการขณะนี้เป็นระยะแรก และในระยะต่อไปข้างหน้าจะดำเนินการให้ครบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวย้ำว่า ระบบการดูแลสุขภาพภายใต้การจัดบริการของคลินิกหมอครอบครัว (Primary care cluster) เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ แต่ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ควรมีการแนะนำให้ประชาชนทุกคนหันมาออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรงป้องกันการเกิดโรคและการเจ็บป่วยที่จะเกิดขึ้น พร้อมกล่าวชื่นชมทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข และอาสามัครสาธารณสุขทุกคน ที่ได้ช่วยกันดูแลประชาชนในพื้นที่ให้หายจากการเจ็บป่วย รวมถึงการเข้าไปดูแลคนไข้ติดเตียงอย่างใกล้ชิดจนหายจากการเจ็บป่วย กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงเป็นปกติ ตลอดจนประชาชนทุกคนที่เสียสละทรัพย์ของตนเองช่วยกันบริจาคสนับสนุนการดำเนินงานของคลินิคหมอครอบครัว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยมีปัญหาต้องแก้ไขหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน การบริหารจัดการน้ำ การพัฒนาประเทศ การปฏิรูปการเกษตร การปฏิรูปอุตสาหกรรม รวมไปถึงการปฏิรูปดิจิทัลที่จะต้องให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นปัญหาเพราะประเทศไทยยังไม่เข้มแข็งเพียงพอก่อนที่จะเข้ามาสู่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว แต่เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทุกประเด็นทั้งปัญหาในอดีต ปัจจุบัน และการเตรียมการสำหรับอนาคต โดยเฉพาะวันนี้ทุกคนต้องมีสุขภาพที่แข็งแรงเพื่อจะได้มีลูกหลานที่แข็งแรงในวันข้างหน้า มีอาชีพ และรายได้ที่เพียงพอในการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ซึ่งจะส่งผลดีต่อประเทศโดยรวมต่อไป
พร้อมทั้ง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินเพื่อวางแผนอนาคตสำหรับทุกคนในวันนี้และวันข้างหน้า โดยรัฐบาลได้มีการวางยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีไว้เรียบร้อยแล้วสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต รวมถึงการเตรียมความพร้อมคนในประเทศให้ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีเข้าใช้ในการรักษาพยาบาลแล้ว ซึ่งในเรื่องของเทคโนโลยีและดิจิทัลทุกคนต้องให้ความสนใจ รู้จักที่จะเลือกในสิ่งที่ดีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมขอให้ทุกคนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเลือกรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลเข้ามาบริหารประเทศ จึงฝากให้ประชาชนทุกคนไปศึกษาเกี่ยวกับหลักการและกระบวนการของการเลือกตั้งว่ามีขั้นตอนอย่างไร จะได้ปฏิบัติตนได้ถูกต้องและไม่เกิดบัตรเสีย รวมทั้งขอให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งด้วย
----------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th