ไทยและเนเธอร์แลนด์ ยืนยันจะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี และพหุภาคีระหว่างกัน

ข่าวทั่วไป Friday September 21, 2018 14:01 —สำนักโฆษก

ไทยและเนเธอร์แลนด์ ยืนยันจะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี และพหุภาคีระหว่างกัน

วันนี้ (21 กันยายน 2561) เวลา 13.30 น. นายเกส ปีเตอร์ ราเดอ (Mr. Kees Pieter Rade) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยภายหลังการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญ การหารือ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวไทย แสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระราชินีมักซิมาแห่งเนเธอร์แลนด์ เสด็จฯ เยือนประเทศไทย เพื่อทรงเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวประทับใจขอบคุณที่ภาคเอกชนของเนเธอร์แลนด์ได้เสนอส่งเครื่องสูบน้ำกำลังสูงมาช่วยเหลือในภารกิจปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีม หมูป่าอะคาเดมี และผู้ฝึกสอน ที่ติดอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ซึ่งเคยปฏิบัติงานในหลายภูมิภาค ทั้ง อเมริกาใต้ และ แอฟริกา จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการขับเคลื่อน และพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ แน่นแฟ้น และเพิ่มพูนในหลากหลายมิติ

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนโยบายเพื่อปฏิรูปและพัฒนาเศรษฐกิจของไทย ได้แก่ EEC Thailand 4.0 และ Thailand+1 เห็นว่าเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์ และได้รับความสนใจจากนักลงทุนเนเธอร์แลนด์ ไทยมีความพร้อมและศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการค้า และการลงทุนของอาเซียน นอกจากนี้ ไทยยังมีความประสงค์ที่จะมีความร่วมมือด้านการเกษตร โดยเฉพาะข้าว และยาง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพของไทย นอกจากนี้ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปราชการที่เนเธอร์แลนด์ เพื่อหารือในการที่จะขยายความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำ ด้วย

โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ฯ ได้กล่าวชื่นชมความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศที่ดำเนินไปอย่างราบรื่นมายาวนานกว่า 400 ปี ทั้งนี้ ไทยและเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศเกษตรกรรมเช่นเดียวกัน จึงสามารถขยายความร่วมมือ แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารระหว่างกัน รวมทั้งความร่วมมือด้านการศึกษา ซึ่งเห็นได้จากการที่นักเรียนนักศึกษาไทยสนใจไปศึกษาต่อที่เนเธอร์แลนด์จำนวนมากขึ้น พร้อมชื่นชมตัวเลขทางการค้าระหว่างไทย-เนเธอร์แลนด์ โดยเนเธอร์แลนด์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของไทยในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเพราะไทยเป็นเสมือนประตูการค้าสู่ภูมิภาคอาเซียน

ในช่วงท้ายการหารือ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ามีกำหนดการเดินทางจะเข้าร่วมการประชุม ASEM Summit ในเดือนตุลาคม 2561 และหวังว่าจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้พบหารือกับนายมาร์ก รึตเตอ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเชื่อมั่นว่าการพบหารือกันจะเป็นโอกาสในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับเนเธอร์แลนด์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป พร้อมยืนยันถึงกระบวนการปฏิรูปประชาธิปไตยของไทยว่า ได้บริหารประเทศโดยยึดตาม Roadmap และพร้อมที่จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงต้นปี 2562 ด้วย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ