นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 13 มุ่งมั่นร่วมมือกับทุกประเทศในการส่งเสริมความก้าวหน้าในกรอบ EAS เพื่อนำสู่ดุลยภาพใหม่ทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค

ข่าวทั่วไป Thursday November 15, 2018 14:01 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 13 มุ่งมั่นร่วมมือกับทุกประเทศในการส่งเสริมความก้าวหน้าในกรอบ EAS เพื่อนำสู่ดุลยภาพใหม่ทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาค

วันนี้ (15 พ.ย. 61) เวลา 14.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐสิงคโปร์) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 13 ช่วงการประชุมเต็มคณะ (Plenary) ณ ศูนย์ประชุมและนิทรรศการ Suntec สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดย พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค กล่าวสรุปสาระสำคัญดังนี้

ไทยยินดีต่อการรับรองแผนปฏิบัติการฉบับใหม่ของ “อีเอเอส” ในปีนี้ ซึ่งแผนปฏิบัติการดังกล่าวจะช่วยกำกับดูแลความร่วมมือสาขาต่าง ๆ ที่มีอยู่จำนวน 9 สาขาให้ดำเนินไปอย่างราบรื่น ในการนี้ ไทยได้ร่วมเป็นประธานกับจีนในการประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยเรื่องการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องการค้นหาและกู้ภัยทางทะเล เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งทำให้ประเทศที่เข้าร่วมอีเอเอสมีความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการค้นหาและกู้ภัยทางทะเลของแต่ละฝ่ายมากยิ่งขึ้น เพื่อปูทางไปสู่ความร่วมมือที่ดีในอนาคต ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีหยิบยกประเด็นสำคัญที่เราต้องร่วมมือกันเพื่อภูมิภาคและประชาคมโลก ดังนี้

ประการแรก ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและอินโด-แปซิฟิกมีประชากรกว่าร้อยละ 50 ของประชากรโลกและสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเกือบร้อยละ 60 ของจีดีพีโลก ดังนั้น ภูมิภาคของเราจึงเป็นพลังขับเคลื่อนความเจริญทางเศรษฐกิจและความมั่นคงที่สำคัญของโลก อาเซียนต้องการเห็นภูมิภาคยังคงรักษาสถานะดังกล่าวและพัฒนาไปอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การสร้างดุลยภาพใหม่ทางยุทธศาสตร์ (Strategic New Equilibrium) ในภูมิภาค บนพื้นฐานของหลักการ 3เอ็ม รวมทั้งมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย

ประการที่สอง ไทยเชื่อมั่นว่า ความเชื่อมโยงที่ดีในภูมิภาคเป็นตัวแปรที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำและนำโอกาสมาสู่ทุกภาคส่วน ต้องต่อยอดการ “เชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่าง ๆ” ทั้งด้านกายภาพ ดิจิทัล กฎระเบียบ ความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน โดยใช้แผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (เอ็มแพค – MPAC) เป็นพื้นฐานเชื่อมโยงกรอบภูมิภาคและอนุภูมิภาค

ประการที่สาม ไทยเห็นว่า ปัญหาความท้าทายด้านความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการก่อการร้ายและอาชญากรรมทางไซเบอร์ หรือปัญหาในคาบสมุทรเกาหลี ยังคงเป็นประเด็นที่ภูมิภาคจะต้องร่วมมือกัน

ปัญหาการก่อการร้ายและอาชญากรรมทางไซเบอร์ ทวีความรุนแรงและพัฒนารูปแบบที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และถือเป็นภัยคุกคามต่อหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชนทั่วไปซึ่งต้องการความร่วมมือระหว่างประเทศที่แข็งขัน ทันท่วงทีและความรับผิดชอบร่วมกันอย่างมีการบูรณาการและเป็นระบบ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมอันเป็นการหยุดยั้งปัญหาที่ต้นเหตุ เพื่อป้องกันมิให้อาชญากรรมทางไซเบอร์ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไป

ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี ไทยยินดีกับพัฒนาการเชิงบวกของคาบสมุทรเกาหลีและผลการประชุมสุดยอดผู้นำเกาหลี และยินดีที่ทุกฝ่ายร่วมมือกัน ทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีในปัจจุบันลดความตึงเครียดลงอย่างมาก สอดคล้องกับนโยบายของไทยที่มุ่งหวังให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาโดยสันติตามช่องทางการทูต ไทยชื่นชมบทบาทของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่อกระบวนการสันติภาพนี้ และพร้อมสนับสนุนเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง

ปัญหาขยะทะเล เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ไทยสนับสนุนถ้อยแถลงผู้นำการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกว่าด้วยการต่อต้านปัญหาขยะพลาสติกทะเล ซึ่งหลายประเทศรวมทั้งไทย ให้ความสนใจและดำเนินกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ และหวังว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะพัฒนาต่อไปในกรอบ “อีเอเอส” เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ทางทะเลให้มีความสมดุลอย่างยั่งยืน

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ