นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครั้งที่ 1/2562

ข่าวทั่วไป Thursday May 16, 2019 14:50 —สำนักโฆษก

ที่ประชุมคณะกรรมการ กปร. พิจาณาสนับสนุนงบประมาณให้แก่หน่วยงานในการสนองพระราชดำริ จำนวน 20 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านส่งเสริมอาชีพและบูรณาการ

วันนี้ (16 พ.ค.62) เวลา 09.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครั้งที่ 1/2562 ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

สำนักงาน กปร. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ได้รายงานผลการดำเนินงานสนองพระราชดำริปี 2561 – 2562 ให้ที่ประชุมรับทราบ ซึ่งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำรินั้น มีทั้งที่มาจากพระราชดำริที่ได้พระราชทานโดยตรง และจากการที่ราษฎรขอพระราชทานความช่วยเหลือหรือฎีกา ซึ่งมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 271 โครงการ และส่วนใหญ่เป็นโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งในด้านการประกอบอาชีพ การศึกษา สาธารณสุข คมนาคม ตลอดจนการรักษาฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยั่งยืน

พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้มีการพิจารณาสนับสนุนงบประมาณให้แก่หน่วยงานในการสนองพระราชดำริ จำนวน 20 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านส่งเสริมอาชีพและบูรณาการ ตามลำดับ

สำหรับการดำเนินงานสนองพระราชดำริของคณะกรรมการ กปร. ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้น้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการสร้างประโยชน์สุขให้กับประชาชนไปพร้อมกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้สืบไป ตามพระปฐมบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ความว่า “ เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณสำนักงาน กปร. ที่รับนโยบายรัฐบาลไปดำเนินการ ซึ่งทุกคนได้ดำเนินงานสนองพระราชดำริรัชกาลที่ 9 รัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประชาชนทุกหมู่เหล่า ดังนั้นจำเป็นต้องมีการจัดสรรและจัดระเบียบต่าง ๆ ให้เกิดความยั่งยืนให้ได้ พร้อมกล่าวเน้นย้ำให้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการผลิตและการจำหน่ายให้สอดกับความต้องการของผู้บริโภคและทันกับสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งการผลิตต้องให้มีปริมาณที่สมดุลกับความต้องการของตลาดและผู้บริโภค ขณะที่ทางรัฐบาลก็จะจัดหางบประมาณในการดูแลภาคการเกษตรให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเพื่อจะลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร และการจัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอสำหรับการเกษตรและการอุปโภคบริโภคของประชาชน พร้อมขอให้ติดตามแผนงานโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลเพื่อให้การทำงานมีความประสานสอดคล้องกัน ตลอดจนการใช้จ่ายงบประมาณต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป

--------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ