นายกรัฐมนตรียกย่อง พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เป็นแบบอย่างในเรื่องความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์สุจริต ขอให้ทุกคนตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน อย่าลืมแผ่นดินของบรรพบุรุษ

ข่าวทั่วไป Tuesday May 28, 2019 15:46 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรียกย่อง พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เป็นแบบอย่างในเรื่องความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์สุจริต ขอให้ทุกคนตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน อย่าลืมแผ่นดินของบรรพบุรุษ
          วันนี้ (28 พฤษภาคม 2562) เวลา 14.10 น. ณ บริเวณห้องโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงคุณูปการของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีที่ถึงแก่อสัญกรรมว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีได้นำคณะรัฐมนตรียืนไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของพลเอก เปรม        ติณสูลานนท์ หลังจากนี้จะเป็นช่วงการบำเพ็ญพิธีศพ ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้ว่ว่า พลเอก เปรมฯ เป็นประธานองคมนตรีถึง 2 รัชกาลและยังเป็นรัฐบุรุษ  และในทางการเมืองก็ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 3 สมัย เป็นผู้ริเริ่มนโยบายอีสเทิร์นซีบอร์ด ถือเป็นการพัฒนาประเทศในช่วยระยะเวลานั้น เป็นผลให้ประเทศมีรายได้และจีดีพีสูงขึ้น ทั้งนี้ พลเอก เปรมฯ ยังได้ประพฤติตนเป็นแบบอย่างในเรื่องความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์สุจริต และวลีที่สำคัญคือ "เกิดมาต้องทดแทนคุณแผ่นดิน"

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกคนต้องยึดมั่นในวลีดังกล่าวไปด้วยกัน เมื่อเกิดมาทุกคนต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ที่อยู่อาศัย ที่ที่ให้เกิดและตาย ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร ผืนดินของเราเป็นเสรีมาโดยตลอด การที่จะไปพูดเอาคนนั้นคนนี้โยงไปโยงมา เอาต่างชาติเข้ามา ต้องไม่ลืมว่าแผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินของบรรพบุรุษเรา เลือดเนื้อชีวิตถมทับกันมายาวนาน เพราะฉะนั้น ขอร้องไม่อยากให้ทุกคนมองว่าเป็นศัตรูกันไปกันมา จนบ้านเมืองเสียหาย

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า ขอให้ทุกคนได้รำลึกถึงพลเอก เปรม ฯ ได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย อาทิ การออกคำสั่งที่ 66/23 ซึ่งทำให้สถานการณ์ในวันนั้นคลี่คลาย ขอยืนยันว่าจะสานต่อทั้งเรื่องจิตสำนึก ปลูกฝังการทำความดี อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในวันนี้ การศึกษามีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น การศึกษาต้องวางรูปแบบให้กับคนไทยทุกคนได้มีหลักคิดที่ถูกต้อง ในเรื่องการรักชาติบ้านเมือง การเสียสละเพื่อบ้านเมือง เมื่อเติบโตออกไปทำงาน ก็สามารถดำเนินการต่อไปในชีวิตของเขาได้ ถ้าไม่มีหลักของตัวเองเลย ก็เป็นเช่นนี้ รักใครชอบใครก็ใช้ความรู้สึกเป็นตัวตัดสินทั้งหมดไม่ได้ ความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นต่อไป หลายคนบอกให้รัฐบาลลดความขัดแย้ง จะไปลดได้อย่างไร ในเมื่อวันนี้กระแสในโซเชียลมีเดียยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ บางคนก็ไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริง เขียนไปแล้วก็จบไป ชี้แจงมาก็ไม่ชี้แจงตอบ ไม่ทำความเข้าใจ เพราะฉะนั้น การจะวิพากษ์วิจารณ์ใด ๆ ก็ตาม หรือสื่อจะขยายอะไรก็ตาม ขอให้คำนึงพื้นฐานข้อเท็จจริงด้วย

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ