รอง นรม. พลเอก ประวิตร ฯ และรอง นรม. นายจุรินทร์ ฯ สั่งแก้การบริหารน้ำมันปาล์มทั้งระบบ เน้น 5 มาตรการเร่งด่วน บรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกร

ข่าวทั่วไป Monday August 19, 2019 13:46 —สำนักโฆษก

รอง. นรม. พลเอก ประวิตร ฯ และรอง นรม. นายจุรินทร์ ฯ สั่งแก้การบริหารน้ำมันปาล์มทั้งระบบ เน้น 5 มาตรการเร่งด่วน บรรเทาความเดือดร้อนเกษตรกร

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2562 วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2562 เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล สาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการแนวทางการบริหารปาล์มน้ำมันทั้งระบบ โดยมอบหมายฝ่ายเลขานุการ กนป. ดำเนินการสรุปเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป ทั้งนี้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ มีความห่วงใยและเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการอย่างเข้มงวด รอบคอบและรวดเร็วตาม 5 มาตรการดังนี้

มาตรการแรก ติดตั้งเครื่องมิเตอร์วัดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่มีอยู่ในคลังเพื่อควบคุมให้ได้ 100% แบบเรียลไทม์ เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากประเทศเพื่อนบ้าน

มาตรการที่สอง ผลักดันการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกไบโอดีเซล บี10 เป็นเกรดพื้นฐาน และน้ำมันบี 20 เป็นทางเลือกให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2562

มาตรการที่สาม เร่งรัดการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าตามมติ กนป. ครั้งที่ 2/2562 เมื่อ 2 พ.ค.2562 ที่เหลืออีก 133,000 ตัน โดยให้รับซื้อเพิ่มเติมต่อไปอีก 100,000 ตัน

มาตรการที่สี่ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองกำลังทหารตามแนวชายแดน กองทัพเรือและกรมศุลกากร กวดขันมิให้มีการลักลอบนำเข้าและส่งออกน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มโดยผิดกฎหมายตามช่องทางด่านศุลกากร ช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดน และช่องทางทะเล

มาตรการที่ห้า ประกันราคาผลน้ำมันปาล์มที่ราคา 4 บาท ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบในหลักการ แต่เนื่องจากหน่วยเกี่ยวข้องและภาคเอกชนยังเห็นว่ารายละเอียดในการนำไปสู่การปฏิบัติยังไม่ชัดเจนเพียงพอ จึงให้คณะอนุกรรมการนำข้อสังเกตของผู้ทรงคุณวุฒิและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาให้ได้ข้อยุติอย่างรอบด้านแล้วนำเข้ามาพิจารณาใน กปน. อีกครั้งหนึ่งก่อนนำเข้า ครม. พิจารณาต่อไป

อนึ่ง สำหรับการนำเข้าน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มภายใต้กรอบการค้าระหว่างประเทศ ยังมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศกับ องค์การการค้าโลก (WTO) และเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ซึ่งได้เน้นย้ำให้ดำเนินการอย่างเข้มงวดรัดกุม มิให้มีการฉวยโอกาสของเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการอย่างเด็ดขาด

คาดว่าการดำเนินการตาม 5 มาตรการนี้ สามารถดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มส่วนเกินออกจากตลาดให้เกิดภาวะสมดุลอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาดีดตัวสูงขึ้นตามกลไกการตลาดภายในประเทศในไม่ช้า

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ