นายกรัฐมนตรีชื่นชมผู้ประกอบการไทย เน้นยุทธศาสตร์พี่จูงมือน้อง เพื่อนจูงมือเพื่อน เพื่อเพิ่มผู้ประกอบการ SMEsและ Start up ไทยในตลาดโลก

ข่าวทั่วไป Monday August 26, 2019 13:55 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2562 (Prime Minister’s Export Award 2019)

วันนี้ (26 ส.ค 62) เวลา 13.00 น. ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ปี 2562 (Prime Minister’s Export Award 2019) โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เอกอัครราชทูต ผู้บริหาร ภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วม กว่า 400 คน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลแก่ผู้ประกอบการไทย 7 ประเภทรางวัล ได้แก่ 1) รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) 2) รางวัลสินค้านวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation) 3) รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) 4) รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design) 5) รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม(Best Service Enterprise Award) ประกอบด้วย 3 สาขา คือ สาขาดิจิทัลคอนเทนท์และซอฟต์แวร์ สาขาธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ สาขาโลจิสติกส์สินค้า 6) รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP) และ 7) รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal) ทั้งสิ้น 34 ราย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับรางวัล พร้อมกล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งภาคการผลิตและบริการอย่างต่อเนื่อง พัฒนาทักษะผู้ประกอบธุรกิจให้ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ สนับสนุนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและตลาด เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถขยายการดำเนินธุรกิจ สู่ตลาดต่างประเทศได้ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนภาคการส่งออกไทยไปสู่ประเทศไทย 4.0 ด้วยยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยนวัตกรรมที่มีคุณค่าและมูลค่า ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าและบริการคุณภาพสูงในอาเซียน โดยคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่โดดเด่น หากการส่งออกและภาคธุรกิจโดยรวมมีความเข้มแข็ง ก็จะช่วยเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รัฐบาลเน้นผลักดันการค้าระหว่างประเทศแบบเชิงรุก สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาธุรกิจและตนเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้สินค้าและบริการของตนมีคุณภาพและมีมาตรฐาน สามารถส่งออกไปสู่ตลาดต่างประเทศได้ ทั้งนี้ ต้องรักษามาตรฐานการดำเนินธุรกิจและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสมกับที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ ที่เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพการประกอบธุรกิจในวันนี้

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังมอบกำลังใจแก่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ให้มุ่งมั่นต่อไป ผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้วก็ให้ช่วยเหลือกันและกัน เสมือนเหมือนพี่จูงมือน้อง เพื่อนจูงมือเพื่อน เกื้อกูลกันในระบบ ให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการ Prime Minister’s Export Award พร้อมพูดคุยและเสนอแนะแก่ผู้ประกอบการ เน้นผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ เพิ่มมูลค่าทางวัฒนธรรม ต่อยอดสินค้าท้องถิ่นพัฒนาให้สู่ตลาดโลก รักษาอัตลักษณ์ไทย ส่งเสริมผู้ประการรายย่อย และ start up ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้า วิจัย เพื่อส่งออกไปสู่ตลาดต่างประเทศได้

สำหรับรางวัล PM Award เริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี 2535 โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดให้มีการพิจารณารางวัล ผู้ส่งออกสินค้าและบริการดีเด่น เพื่อแสดงถึงภาพลักษณ์ของคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าไทยในตลาดโลก โดยมีเป้าหมายที่จะสนับสนุนให้ความสำคัญแก่ผู้ส่งออกสินค้าและบริการที่มีผลงานดีเด่น รวมทั้งสนับสนุนการสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการ รางวัลดังกล่าวถือเป็นรางวัลสูงสุดที่รัฐบาลมอบให้แก่ผู้ส่งออก ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้มีพิธีประกาศเกียรติคุณ โดยถือเป็นมาตรการหนึ่งที่สอดรับนโยบายในการขับเคลื่อนภาคการส่งออกไทยเพื่อมุ่งไปสู่ประเทศไทย 4.0 ด้วยยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยนวัตกรรม

…………………………………………………………………….

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ