ไทย-เกาหลีใต้พร้อมเปิดศักราชใหม่ความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์

ข่าวทั่วไป Monday September 2, 2019 15:50 —สำนักโฆษก

ไทย-เกาหลีใต้พร้อมเปิดศักราชใหม่ความสัมพันธ์ในฐานะหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์

วันนี้ (2 กันยายน 2562) เวลา 10.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยภริยา ให้การต้อนรับ นายมุน แช-อิน (Mr. Moon Jae-in) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) และภริยา ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล โดยผู้นำทั้ง 2 ได้ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นประธานาธิบดีเกาหลีใต้ลงนามสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึกที่ทั้งสองฝ่ายมอบให้แก่กัน ก่อนหารือข้อราชการกลุ่มเล็ก ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ผู้นำทั้งสองได้ร่วมกันหารือข้อราชการเต็มคณะ ณ ตึกภักดีบดินทร์ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีโดยฝ่ายไทยประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพุฒิพงศ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สำหรับคณะรัฐมนตรีฝ่ายเกาหลีใต้ ประกอบด้วย นางสาวยู อึน-ฮเย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางคัง คยอง-ฮวา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางสาวปัก ยอง-ซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและวิสาหกิจเริ่มต้น และนางสาวยู มยอง-ฮี รัฐมนตรีการค้า กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือข้อราชการเต็มคณะผู้นำทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและสาธารณรัฐเกาหลี จำนวน 6 ฉบับ และร่วมกันแถลงข่าว ณ ตึกสันติไมตรีหลังในโดยสรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรียินดีและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลนับเป็นการเยือนของผู้นำเกาหลีใต้ในรอบ 7 ปี การเป็นประธานอาเซียนของไทยในปีนี้จะช่วยยกระดับพัฒนาความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างไทย-เกาหลีใต้ให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมและบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ตามนโยบายของทั้งสองประเทศ ซึ่งยังมีศักยภาพอีกมากที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นประโยชน์ร่วมกัน

ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมโอกาสและความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างกันในภูมิภาคให้มากขึ้น รวมถึงการผลักดันการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค (RCEP) ให้บรรลุข้อสรุปภายในปีนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และสำนักงานส่งเสริมการค้าการลงทุนเกาหลี (KOTRA) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำ ความร่วมมือด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ความร่วมมือระบบราง และด้านอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 โดยในปีนี้จะรื้อฟื้นการประชุมคณะกรรมการความร่วมมือด้านเศรษฐกิจไทย –เกาหลีใต้ (KOTCOM) ที่รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเป็นประธานด้วย

ความร่วมมือด้านการเมือง ความมั่นคง และการทหาร เห็นพ้องจะกระชับความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงมากขึ้น รวมทั้งการพัฒนากลไกหารือทวิภาคีทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน โดยทั้งฝ่ายลงนามความตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีชั้นความลับร่วมกัน สะท้อนให้เห็นถึงความไว้เนื้อเชื่อใจ

ความร่วมมือในระดับประชาชน ทั้งสองฝ่ายพร้อมต่อยอดความร่วมมือระหว่างกัน ซึ่งเป็นรากฐานที่มั่นคงและโดดเด่น ได้แก่ ความร่วมมือด้านภาพยนตร์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การจัดตั้งศูนย์ศึกษาเกาหลีในไทยและการเรียนการสอนภาษาเกาหลีในไทย และในการพบกันครั้งนี้ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาภาษาเกาหลี รวมไปถึงการสนับสนุนให้แรงงานไทยเดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไปทำงานเกาหลีใต้ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ

ความร่วมมือระดับภูมิภาค ปีนี้ ครบรอบ 30 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน – เกาหลีใต้ นายกรัฐมนตรียินดีที่สาธารณรัฐเกาหลีสนับสนุนบทบาทไทยในการเป็นประธานอาเซียนและเป็นแกนกลางอาเซียน และจะได้เป็นประธานร่วมประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ในการประชุมสุดยอดอาเซียน - เกาหลีใต้ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 ในเดือนพฤศจิกายน 2562 ตลอดจนการเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของกรอบความร่วมมือ ACMECS ของเกาหลีใต้

นายกรัฐมนตรีขอบคุณต่อมิตรภาพและความมุ่งมั่นของเกาหลีใต้ที่จะร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้ครอบคลุมทุกมิติ บนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกัน

โอกาสนี้ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้แถลงข่าวโดยมีสาระสำคัญว่าการเยือนไทยครั้งนี้เป็นการเปิดศักราชใหม่ความสัมพันธ์ทางหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ เห็นพ้องที่จะขับเคลื่อนความสัมพันธ์ให้มีพลวัตครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศที่มีความท้าทายมากขึ้น โดยให้ความสำคัญใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1. การส่งเสริมการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ โดยเตรียมความพร้อมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรมในอนาคต การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำ และการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเกาหลีใต้พร้อมผลักดันนโยบาย Thailand 4.0 ของไทยซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบายมุ่งใต้ใหม่ (New Southern Policy –NSP) ของเกาหลีใต้ 2. การส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนให้มีความใกล้ชิดมากขึ้น โดยเห็นว่าความสัมพันธ์ของประชาชนเป็นวางรากฐานของความเจริญรุ่งเรืองของประเทศทั้งสอง 3. การกระชับความร่วมมือด้านสันติภาพและความมั่นคง โดยยินดีที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันลงนามความตกลงว่าด้วยการคุ้มครองข่าวสารทางทหารที่มีชั้นความลับร่วมกัน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสันติภาพของคาบสมุทรเกาหลี ภูมิภาคเอเชียตะวันออก และของโลก พร้อมทั้งขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่สนับสนุนนโยบาย NSP ของเกาหลีใต้อย่างหนักแน่น และหวังว่าจะได้พบกับนายกรัฐมนตรีในการประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลีใต้ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 ที่นครปูซาน ในเดือนพฤศจิกายนนี้

จากนั้นนายกรัฐมนตรีและภริยาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้และภริยา ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ