รมต.เทวัญ มอบนโยบาย อสมท. ย้ำชัดไม่ลดงบลงทุนข่าว พร้อมส่งเสริมเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม

ข่าวทั่วไป Friday September 6, 2019 15:26 —สำนักโฆษก

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มอบนโยบาย อสมท. ย้ำชัดไม่ลดงบลงทุนข่าว พร้อมส่งเสริมเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม

วันนี้ (6 กันยายน 2562 ) เวลา 09.00 น. นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมอบนโยบายการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน ณ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) โดยมีนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท. พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมให้การต้อนรับและกล่าวบรรยายสรุปผลการดำเนินงานที่ผ่านมา บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อตั้งมาแล้ว 61 ปี เข้าจดทะเบียนหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีศักยภาพและความพร้อมในการแข่งขันธุรกิจกิจการที่เกี่ยวกับสื่อสารมวลชนในปัจจุบัน มีช่องทางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทั้งทางวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อโซเชียลมีเดีย

โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบาย 5 ข้อ ดังนี้

1.สร้างความตระหนักรู้ เผยแพร่ และปลูกฝัง ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องและเป็นจริงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน

2.ประชาสัมพันธ์โครงการสำคัญต่างๆ ของรัฐบาล เช่น โครงการ EEC ที่ประกอบด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูง การขยายสนามบินอู่ตะเภา การขยายท่าเรือน้ำลึกที่แหลมฉบัง และมาบตาพุด โครงการลงทุนระบบเทคโนโลยีสื่อสาร 5G โครงการพัฒนาชายฝั่งด้านการท่องเที่ยว โครงการพัฒนา SME ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาถือเป็นโครงการที่ดี หากมีการเผยแพร่ข้องมูลข่าวสารให้กับประชาชนทั้งในและต่างประเทศก็จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุน รวมทั้งประชาสัมพันธ์เรื่องการท่องเที่ยว ก็จะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การลงทุน และการจ้างงานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องชัดเจนเพื่อให้กับพี่น้องประชาชนเข้าใจในข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ป้องกันปัญหาเรื่องของ Fake News ที่มักปรากฎใน Social Network และ Online ต่างๆ ที่สร้างความสับสนในสังคม

3. ต้องปรับตัวในยุค Disruptive Technology ซึ่ง Platform ของการทำธุรกิจเปลี่ยนไปสู่การนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในธุรกิจ Online ดังนั้นการจัดโครงสร้างการบริหารขององค์กรต้องสอดคล้องกับเทคโนโลยีใหม่ การจัดทำกลยุทธ์ด้านการตลาดที่เหมาะสม ปรับรูปแบบการนำเสนอรายการต่างๆ เพื่อความทันสมัยและเป็นสากล และเพื่อให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นๆได้

4. เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการแล้ว ถึงแม้ อสมท มีแนวโน้มขาดทุนลดน้อยลง และในปีนี้คาดการณ์ว่าอาจจะมีกำไร หรือขาดทุนไม่มาก แต่บริษัทก็ยังเผชิญกับสถานการณ์ที่ธุรกิจประเภทเดิมจะมีรายได้ลดน้อยลงเรื่อยๆ ก็ต้องหาวิธีที่จะต้องเพิ่มช่องทางหารายได้มาทดแทน ซึ่งอาจมาจากฐานธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้ว หรือลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ หา Strategy Partner โดยอาศัยประสบการณ์ และความได้เปรียบต่างๆที่ อสมท มีอยู่

5. ปัจจุบันสถานการณ์โลกน่าเป็นห่วงในภาวะเศรษฐกิจถดถอย องค์กรจึงจำเป็นต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์รอบตัวที่เปลี่ยนแปลง เช่น ต้องมีการปรับ Organization ให้เหมาะสม มีความยืดหยุ่นตัวสูงต่อสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงรอบตัว มีการบริหารความเสี่ยง มีเครือข่ายธุรกิจ มีการบริหารงานที่นำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้และวางแผน มีการพัฒนาด้าน HR ให้บุคลากรมีคุณภาพทันกับเทคโนโลยีและปริมาณที่เหมาะสมกับองค์กรและภารกิจ มีหลักธรรมาภิบาลที่ดี มีความโปร่งใสในการทำงาน และมีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้องค์กรธุรกิจของเราประสบความสำเร็จบรรลุเป้าหมาย มีกำไร มีความยั่งยืน สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและสังคมต่อไป

จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ไปสักการะหลวงพ่อดำและพระพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ อสมท. และเดินทางไปตรวจการดำเนินงานของสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุในสังกัด พร้อมให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุ ก่อนเดินทางกลับ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ