นายกรัฐมนตรีมอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.อุบลราชธานี และเยี่ยมผู้ปฏิบัติงานเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

ข่าวทั่วไป Monday September 9, 2019 16:02 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีมอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.อุบลราชธานี และเยี่ยมผู้ปฏิบัติงานเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

วันนี้ (9 กันยายน 2562) เวลา 16.35 น. ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของเทศบาล ตำบลบ้านกอก อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัย มอบถุงยังชีพกว่า 1,000 ชุด พร้อมเป็นกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่

จังหวัดอุบลราชธานีมีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้ง 25 อำเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 27,176 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายจำนวน 442,364 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 10 ของพื้นที่การเกษตรทั้งหมดของจังหวัด สำหรับ อ.เขื่องใน จ. อุบลราชธานี พื้นที่ที่นายกรัฐมนตรีพบประชาชนในวันนี้ เป็นอำเภอที่ประสบภาวะน้ำท่วมหนัก เนื่องจากรับมวลน้ำจากลุ่มน้ำชี ลำน้ำเซบาย ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2562 จนถึงปัจจุบัน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงมีความห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัย โดยได้มีการพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือ และโรงครัวพระราชทาน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าตั้งใจเดินทางมาในวันนี้ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนอุบลราชธานี และห่วงทุกจังหวัดที่ประสบอุทกภัยทั้ง 32 จังหวัด และมาติดตามการแก้ปัญหาทั้งการช่วยเหลือเฉพาะหน้า ในช่วงน้ำท่วม และการเยียวยา หลังน้ำลด ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมงบประมาณไว้แล้ว แต่ต้องใช้เงินอย่างคุ้มค่าและประหยัด ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รัฐบาลยังร้อยเรียงงานกว่า 70 หน่วยงาน เพื่อวางแผนแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบด้วย โดยมี สทนช. เป็นหน่วยงานหลัก เช่น การเพิ่มพื้นที่ชลประทาน การนำน้ำลงเขื่อน เชื่อมโยงระบบน้ำทั้งแม่น้ำ คู คลอง แม่น้ำสาขา ทำคู่กันทั้งการระบายน้ำและการเก็บกักน้ำรวมทั้งการทำแก้มลิง หากเป็นพื้นที่ของประชาชน ก็ต้องหาทางเจรจาและชดเชย ทั้งนี้เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง โดยเฉพาะน้ำอุปโภคบริโภค จะต้องทั่วถึงทุกพื้นที่

นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยเกษตกรที่ประสบปัญหาราคาพืชผล ขอให้เข้าใจว่าราคาสินค้าเกษตรเป็นไปตามกลไกความต้องการของตลาดโลก แต่รัฐบาลมีมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ซึ่งเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญ เช่น เกษตรแปลงใหญ่ การใช้ปุ๋ยที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงใช้สารเคมี รวมทั้งเดินหน้าหาตลาดเพิ่มเติมทั้ง ยุโรป เอเชีย และอาเซียน โลกกำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ที่กระทบอาชีพและชีวิต เราต้องเรียนรู้ใช้ประโยชน์ อาทิ การค้าออนไลน์ ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันทั้งรัฐบาลและประชาชน เพื่อการพัฒนาประเทศ ทุกพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลต่างก็ตั้งใจทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการต้องเป็นระเบียบ วันนี้ต้องขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งสถาบันการเงิน หน่วยราชการ จิตอาสา โรงครัวพระราชทาน ที่มาร่วมกันช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ลงเดินสำรวจถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 23 ขอนแก่น – อุบลราชธานีช่วงถนนแจ้งสนิท จากอุบลราชธานี - ยโสธร ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้เจ้าหน้าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเมื่อประเทศชาติมีภัยทุกคนต้องร่วมใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และนายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายรูปกับผู้ปฏิบัติหน้าที่ตามบูธต่าง ๆ เช่น หน่วยปฐมพยาบาล โรงครัวพระราชทาน พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนที่มาร่วมมือกันในวันนี้ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับ

---------------------

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ