ไทย-ฮังการี ยินดีที่ความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนใกล้ชิดมากขึ้น

ข่าวทั่วไป Friday September 27, 2019 14:13 —สำนักโฆษก

ไทย-ฮังการี ยินดีที่ความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนใกล้ชิดมากขึ้น

วันนี้ (วันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2562) เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในศาลาว่าการกลาโหม กระทรวงกลาโหม นายซิลเวสเตอร์ บุช (H.E. Mr. Szilveszter Bus) เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตฯ พร้อมยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีความใกล้ชิดกันอย่างต่อเนื่องและยาวนาน โดยในปีนี้ครบรอบ 150 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ไทย-ฮังการี ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การทำงานของเอกอัครราชทูตฯ จะมีส่วนช่วยพัฒนาและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

เอกอัครราชทูตฯ ขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าพบในวันนี้ โดยฮังการีถือเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จที่สุดในด้านเศรษฐกิจในยุโรป และยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปี 2561 ประเทศไทยกลายเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ในอาเซียน (ASEAN) ของฮังการี ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตยังได้กล่าวเชิญรองนายกรัฐมนตรีเยือนฮังการีในโอกาสแรกที่สะดวกอีกด้วย

ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความร่วมมือระหว่างไทย-ฮังการี มีความก้าวหน้าในหลาย ๆ ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ การเกษตร การศึกษา และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยทางด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบันมีบริษัทจากฮังการีเข้ามาลงทุนในไทยแล้ว 4 บริษัท โดยรัฐบาลไทยเล็งเห็นถึงศักยภาพของนักลงทุนฮังการี จึงอยากเชิญชวนให้ภาคธุรกิจฮังการีเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในสาขาที่ฮังการีมีศักยภาพ นอกจากนี้ ทางด้านการเกษตร รองนายกรัฐมนตรียินดีที่การประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรไทย-ฮังการี ครั้งที่ 7 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จด้วยดี ในด้านการศึกษา รองนายกรัฐมนตรีขอบคุณรัฐบาลฮังการีที่มอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 ซึ่งนักศึกษา เหล่านี้ถือเป็นทรัพยากรบุคคลอันมีค่าในการพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศต่อไปในอนาคต

โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีประสงค์ให้มีการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างกัน เนื่องจากฮังการีมีศักยภาพ และความเชี่ยวชาญ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ของไทย พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณรัฐบาลฮังการีที่มีหนังสือเชิญเข้าร่วมการประชุม Budapest Water Summit 2019 ระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม 2562 ซึ่งจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระหว่างไทยกับฮังการี

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ