ไทย-สหรัฐฯ เร่งขับเคลื่อนการลงทุน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายประเทศไทย 4.0

ข่าวทั่วไป Sunday November 3, 2019 15:38 —สำนักโฆษก

ไทย-สหรัฐฯ เร่งขับเคลื่อนการลงทุน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายประเทศไทย 4.0

วันนี้ (3 พฤศจิกายน 2562) เวลา 16.30 น. ณ ห้อง Sapphire 108 ชั้น 1 อาคารอิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี นายวิลเบอร์ รอสส์ (Wilbur Ross) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ภายหลังเสร็จสิ้น ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณที่รมว.พณ. สหรัฐฯ นำคณะนักธุรกิจจากบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ร่วมเดินทางมาไทยครั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะในการขยายความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งสหรัฐฯ นับเป็นนักลงทุนที่สำคัญของไทยและมีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยมายาวนาน ทั้งนี้รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุนของบริษัทสหรัฐฯ ในไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อากาศยานและอวกาศ ดิจิทัล เทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรมการแพทย์

รมว.พณ.สหรัฐฯ แสดงความชื่นชมการเป็นประธานอาเซียนของไทยในปีนี้ที่มีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในการพัฒนาภูมิภาคอาเซียน พร้อมกล่าวว่าการมาเยือนครั้งนี้นำภาคเอกชนจากสาขาต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของไทยมาร่วมประชุม Indo Business Forum ที่หอการค้าไทยและหอการค้าสหรัฐฯ ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน เชื่อมั่นว่าการประชุมครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจสำหรับภาคเอกชน

ทั้งสองฝ่ายหารือถึงการเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยมีนโยบายส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้แก่การลงทุนของภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างชาติ รวมทั้งได้พัฒนากฎระเบียบต่างๆ และผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง จึงขอเชิญชวนภาคเอกชนสหรัฐฯ มาร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคของอาเซียนด้วย

สำหรับประเด็นการพักสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) บางส่วนแก่ไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ารัฐบาลห่วงกังวลเรื่องผลกระทบต่อภาคเอกชนและสาธารณชน แต่เข้าใจดีเรื่องกติกาของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามในฐานะมิตรอันใกล้ชิด ขอให้สหรัฐฯ พิจารณาทบทวนอีกครั้ง ซึ่งรว.พณ.สหรัฐฯ พร้อมเปิดให้มีการเจรจาทบทวนระหว่างกันก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ