นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2562 เน้นรัฐวิสาหกิจช่วยกันดูแลประเทศชาติ ประชาชนสามารถเข้าถึงการบริการสาธารณะ

ข่าวทั่วไป Monday December 23, 2019 15:16 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2562 เน้นรัฐวิสาหกิจช่วยกันดูแลประเทศชาติ ประชาชนสามารถเข้าถึงการบริการสาธารณะ

วันนี้ (23 ธ.ค.2562 ) เวลา 16.00 น ณ ห้องบางกอก คอนเวนชันเซ็นเตอร์ บี 2 ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2562 โดยมีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กรรมการและผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจร่วมงานกว่า 800 คน ภายใต้แนวคิด“พลังรัฐวิสาหกิจไทย สู่มิติใหม่ด้วยดิจิทัล” โดยในปีนี้ รางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยม ประจำปี 2562 ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีมอบถ้วยรางวัลและกล่าวแสดงความยินดีแก่รัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2562 สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐวิสาหกิจเป็นกลไกสำคัญของระบบเศรษฐกิจของประเทศ มีรายได้รวมเกือบ 5 ล้านล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 30 ของ GDP ในปี 2561 มีค่าใช้จ่ายกว่า 4 ล้านล้านบาท มีเงินลงทุนประมาณ ปีละ 3 แสนล้านบาท ใกล้เคียงการลงทุนของหน่วยงานของรัฐอื่นรวมกันทั้งหมด มีการจ้างงานรวม กว่า 300,000 คน ปีที่ผ่านมาได้นำส่งรายได้แผ่นดินได้ประมาณ 170,000 ล้านบาท คิดเป็น 7% ของรายได้รัฐบาลทั้งหมด นอกจากนี้ กิจกรรมของรัฐวิสาหกิจยังมีความสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศและความมั่นคงด้านการคลัง รัฐวิสาหกิจยังเป็นหน่วยงานของรัฐที่ ที่ทำให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการสาธารณะต่างๆ ทั้งไฟฟ้า ประปา การคมนาคมขนส่ง การสื่อสาร ได้อย่างเท่าเทียมมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นายกรัฐมนตรีกล่าว ในปี 2563 สภาพัฒน์ฯ คาดการณ์การเติบโตของ GDP อยู่ระหว่าง 2.7 – 3.7% โดยหวังเป้าหมายที่3.7% อย่างไรก็ตามในภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่มีแนวโน้มและไม่สามารถพึ่งการส่งออกได้มาก รัฐบาลให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะของรัฐวิสาหกิจให้เร่งรัดการลงทุนให้รวดเร็ว เร่งการใช้จ่ายและการลงทุนให้ได้ตามแผนหรือเร็วกว่าแผน รวมทั้งหาโครงการลงทุนเพิ่มเติมด้วย รัฐวิสาหกิจอาจพิจารณาหาแนวทางการใช้ประโยชน์จากค่าเงินบาทค่อนข้างแข็งตัวในช่วงนี้ เร่งใช้จ่ายและการลงทุนโครงการต่างๆ ที่เป็นเงินตราต่างประเทศด้วย

ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจยังมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ ต้องมีการลงทุนเพื่ออนาคต พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ รองรับการเติบโตของประเทศ ทั้งเรื่องไฟฟ้า ประปา การคมนาคมขนส่ง โลจิสติกส์ การสื่อสาร เป็นต้น ในช่วง 4 -5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจจำนวนมาทั้งที่ดำเนินการเองและการทำ PPP (Public Private Partnership) ร่วมกับภาคเอกชน เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ การพัฒนาสนามบิน รถไฟทางคู่หลายเส้นทาง เป็นต้น โดยเน้น การทำ PPP ที่ให้โอกาสภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนด้วย เพื่อลดภาระการลงทุนของภาครัฐ และให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงโครงการ สำคัญๆในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) อาทิ การรถไฟ การท่าเรือ การนิคม การบินไทย ปตท. กสท. ซึ่งบางโครงการก็มีความคืบหน้า แต่บางโครงการยังล่าช้า ก็อยากให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงานด้วย เพื่อให้ EEC มีความพร้อมและสามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น

สำหรับการท่องเที่ยว ทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ก็มีส่วนช่วยสนับสนุนโดยเฉพาะด้านขนส่ง การเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ การให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานได้อย่างทั่วถึง คือการสร้างความเสมอภาคให้แก่พี่น้องประชาชน ทุกคน ทุกพื้นที่ สร้างโอกาสให้กับชุมชนและ SMEs – Startup ก่อให้เกิดการกระจายรายได้ให้ทั่วถึง โดยรัฐบาลได้ผลักดันให้เกิดระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) อย่างครบวงจร เพื่อรองรับธุรกรรมการเงินและกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ดำเนินการได้อย่างสะดวกและเร็วยิ่งขึ้น เป็นระบบพื้นฐานสำคัญเพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่สังคม Digital ให้ได้เร็วขึ้น ตามนโยบาย“ไทยแลนด์ 4.0” รวมทั้ง การสร้างระบบการจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และการวิเคราะห์ข้อมูล (หรือ Data Analytic) เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และคิดค้นนวัตกรรม หรือรูปแบบการให้บริการและกระบวนการทำงานใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการต่างๆ ของประชาชนตามยุทธศาสตร์ชาติ

นายกรัฐมนตรียังย้ำในตอนท้าย ว่า รัฐวิสาหกิจเป็นกลไกสำคัญของภาครัฐและระบบเศรษฐกิจไทย มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของคนไทย ขอให้ร่วมมือกันในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ให้ประเทศไทยมีความ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ