นายกรัฐมนตรีออกข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มาตราการเร่งด่วนสำหรับการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไรรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 2019

ข่าวทั่วไป Tuesday March 3, 2020 15:45 —สำนักโฆษก

นายกรัฐมนตรีออกข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี มาตราเร่งด่วนสำหรับการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไรรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 2019

วันนี้ (3 มี.ค. 2563) เวลา 14.00 น. ณ ตึกบัญชการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แถลงต่อสื่อมวลชนหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงมาตราการในการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 2019 ว่า ได้มีข้อสั่งมาตรการระยะเร่งด่วน ในการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ในการระงับหรือเลื่อนการเดินทางไปศึกษา ดูงาน อบรม หลักสูตร หรือมีประชุม ในประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 2019 หรือผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงให้มีการติดตามเฝ้าระวัง และสังเกตอาการตนเองที่บ้าน หรือโรงพยาบาลเป็นเวลา 14 วัน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีคนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการประชุม หรือการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และในกรณีที่มีคนไทยในประเทศเกาหลีใต้มีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับมานั้น รัฐบาลจะมีการประชุมหารือเพื่อหามาตรการรองรับที่เหมาะสมในวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้ รัฐบาลได้กำชับโรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัยให้เร่งกำลังการผลิต โดยทั้ง 11 โรงงานสามารถผลิตรวมกันทั้งสิ้นอยู่ที่ประมาณ 36 ล้านชิ้นต่อเดือน เฉลี่ยแล้ววันละประมาณ 1 ล้านชิ้น ซึ่งในการผลิตหน้ากากอนามัยนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้วัสดุที่นำเข้าจากจีน ไต้หวัน และอินโดนีเซีย รัฐบาลจึงมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้มีวัสดุที่เพียงพอต่อการผลิต ในส่วนของการจัดสรรปันส่วนหน้ากากอนามัย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะต้องใช้สำหรับการแพทย์จำนวนประมาณ 350,000 ชิ้นต่อวัน รวมถึงการกระจายหน้ากากอนามัยให้ร้านสะดวกซื้อและร้านค้าทั่วไป ด้วย

นายกรัฐมนตรียังเตือนถึงการกักตุนหน้ากากอนามัยไว้ไม่ว่าจะเพื่อการส่งออกไปต่างประเทศ หรือการนำมาขายเกินราคา นั้น ถือเป็นความผิด และจะดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด ซึ่งตอนนี้มีผู้ทุกดำเนินคดีไปแล้ว 51 ราย ในส่วนรัฐบาลเองจะมีการจัดทำโครงการหน้ากากอนามัยที่ทำมาจากผ้าที่สามารถซักได้ หรือที่เรียกว่า หน้ากากทางเลือก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้มีการรับรองแล้วว่า สามารถป้องกันการติดเชื้อและการแพร่กระจายโควิด 2019 ได้ โดยจะมีการเร่งการผลิตภายใน 10 วันให้ได้จำนวน 50 ล้านชิ้น เพื่อกระจายไปสู่ท้องถิ่นและประชาชนทั่วไป ที่สำคัญ ต้องขอความร่วมมือประชาชนในการทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วอย่างถูกต้อง เนื่องจากเป็นขยะติดเชื้อ ทุกคนจะต้องช่วยกันระมัดระวังเพื่อสุขภาพของพวกเราทุกคน

...................

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ