วันนี้ (17 มีนาคม 2563) เวลา 08.20 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับมอบเงินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคโควิด -19 ในนามของ มูลนิธิ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง จำนวน 10 ล้านบาท และ ดร.แสงชัย โสตถีวรกุล นายกสมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย และคณะได้มอบเงินสนับสนุน อีก 5 ล้านบาทด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณถือเป็นการทำบุญกุศลร่วมกัน โดยจะนำเงินที่ได้รับมอบใช้เพื่อสิ่งของจำเป็นให้สำหรับบุคลากรและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่มีงบประมาณ แต่เตรียมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงมาตรการของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ยังเปิดให้มีการแข่งขันแต่ไม่อนุญาตให้เข้าชมนั้น ว่า ต้องมีมาตรการที่เข้มงวด ทั้งการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ ตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุขด้วย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เมื่อมีอาการก็ไปพบแพทย์หรือกักตัวอยู่ภายในที่พัก ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ ประชาชนต้องรู้จักป้องกันตนเองให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรียังเข้าใจว่า มาตรการรัฐที่บังคับใช้ อาจส่งผลกระทบและทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเป็นความจำเป็นและจะต้องดำเนินการต่อไป แม้ไวรัสจะแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วและควบคุมยาก แต่รัฐบาลยังควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดี ด้วยมาตรการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวดตั้งแต่ประเทศต้นทาง เดินทางเข้าประเทศไทย โดยเฉพาะการใช้แอปพลิเคชันเพื่อติดตามตัว และให้มีการรายงานเป็นระยะ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังได้แสดงตัวอย่างหน้ากากอนามัยแบบผ้าของตนเองว่า เป็นการนำเศษผ้าที่เหลือจากการตัดเสื้อ มาตัดเย็บเป็นหน้ากากผ้าอนามัยเพื่อใช้ในช่วงนี้ เพื่อเป็นหน้ากากทางเลือกที่ใช้ป้องกันโรคได้ ทั้งนี้ ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้าจำนวน 50 ล้านชิ้น เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนอีกช่องทางหนึ่งด้วย และสั่งให้ผลิตเพิ่มอีก 10 ล้านชนิด เพื่อลดการใช้หน้ากากอนามัยแบบครั้งเดียว ที่บุคลากรทางการแพทย์มีความจำเป็นต้องใช้ ซึ่งผลิตได้เพียง 38 ล้านชิ้นต่อเดือน เนื่องจากวัตถุดิบขาดแคลน ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ส่วนข้อเสนอที่จะให้รัฐบาลดำเนินการเด็ดขาดเช่นหลายประเทศนั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากลักษณะของประเทศไทยแตกต่างจากประเทศอื่น ถึงอย่างนั้นขอให้มั่นใจรัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด
..................................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th