รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมายแม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) [กระทรวงการคลัง]

ข่าวทั่วไป Thursday May 28, 2020 13:41 —สำนักโฆษก

สคร. ได้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 2563 ของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง ที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรงอย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโรค COVID - 19 แต่ในภาพรวมรัฐวิสาหกิจยังสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดย ณ สิ้นเดือนเมษายน 2563

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร. ได้ติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 2563 ของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง ที่ สคร. กำกับดูแลโดยตรงอย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโรค COVID - 19 แต่ในภาพรวมรัฐวิสาหกิจยังสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดย ณ สิ้นเดือนเมษายน 2563 มีผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมจำนวน 89,134 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 101 ของแผนการเบิกจ่ายสะสม ซึ่งรัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายสะสมได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่และสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การประปาส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง

ผลการเบิกจ่ายสะสมของรัฐวิสาหกิจ 2563 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563
รัฐวิสาหกิจ                               เบิกจ่ายจริงสะสม (ล้านบาท)    ร้อยละเบิกจ่ายจริงสะสม/แผนเบิกจ่ายสะสม
ปีงบประมาณ (ต.ค. 62 – ก.ย. 63)
จำนวน 34 แห่ง                                   55,640                 98%
ปีปฏิทิน (ม.ค. 63 – ธ.ค. 63)
จำนวน 11 แห่ง                                   33,494                108%
รวม 45 แห่ง                                     89,134                101%

นางสาวปิยวรรณ ล่ามกิจจา รองผู้อำนวยการ สคร. รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง แบ่งเป็นการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 34 แห่ง จำนวน 55,640 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 98 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 7 เดือน (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 – เมษายน 2563) และการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 11 แห่ง จำนวน 33,494 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 108 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม 4 เดือน (ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2563) ทั้งนี้ มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่สามารถเบิกจ่ายได้เกินกว่าเป้าหมาย เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ของ รฟม. โครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าภาคตะวันตกและภาคใต้เพื่อสร้างความมั่นคงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ 12ปี 2560 – 2564 ของการไฟฟ้านครหลวง สำหรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เบิกจ่ายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย เช่น โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 – 2560) ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และโครงการลงทุนโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ตามแผนระบบรับส่งและโครงสร้างพื้นฐานก๊าซธรรมชาติเพื่อความมั่นคง (ระยะที่ 1 และ 2) และแผนระยะยาวพัฒนาอสังหาริมทรัพย์/อื่นๆ ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวสรุปว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจณ สิ้นเดือนเมษายน 2563 ในภาพรวม รัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่ยังคงสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID - 19 ได้ส่งผลกระทบต่อโครงการลงทุนบางโครงการที่ต้องใช้บุคลากรและการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ รวมทั้งผู้รับเหมาไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องปรับปรุงแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับการดำเนินงานจริงด้วย ทั้งนี้ กระทรวงการคลังโดย สคร. จะยังคงติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปี 2563 อย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถลงทุนโครงการต่างๆ ได้ตามเป้าหมาย รวมถึงช่วยผลักดันเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

http://www.sepo.go.th/news/1031

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ