นายกฯ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญในการจัดการและการจัดหาวัคซีนโรคโควิด-19 และใช้อำนาจ ศบค. ภายใต้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

ข่าวทั่วไป Tuesday June 1, 2021 15:54 —สำนักโฆษก

นายกฯ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญในการจัดการและการจัดหาวัคซีนโรคโควิด-19 และใช้อำนาจ ศบค. ภายใต้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

วันนี้ (1 มิถุนายน 2564) เวลา 17.50 น. ณ ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 โดย นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่า รัฐบาลได้ไตร่ตรองร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2565 ที่ได้เสนอไปอย่างถี่ถ้วน ซึ่งจะชี้แจงภาพรวมงบประมาณอีกครั้ง ในส่วนตัวเลขสถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ประมาณ 5 แสนราย ผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก 170 ล้านราย รักษาหายป่วยแล้ว 152 ล้านราย เสียชีวิต 3 ล้าน 5 แสนราย ประเทศใหญ่ๆ เช่น สหรัฐ อินเดีย บราซิล ฝรั่งเศส ก็ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนสูง ส่วนสถานการณ์ในประเทศสมาชิกอาเซียนไทยได้นำข้อมูลของทุกประเทศมาวิเคราะห์ว่าจะบริหารวัคซีนอย่างไร ส่วนยอดในประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลง มีจำนวนคลัสเตอร์ที่รัฐบาลพยายามบริหารจำนวนเตียงผู้ป่วย โรงพยาบาลสนาม เพิ่มเตียงรักษาพยาบาล ปรับเรื่องการฉีดวัคซีน สถานที่ และจำนวนวัคซีน ซึ่งจะได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขชี้แจงต่อไป

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้พิจารณาจำนวนวัคซีน และช่วงเวลาจนถึงเดือนธันวาคม 2564 รัฐบาลพยายามหาวัคซีนทางเลือกอื่น ๆ ให้ได้จำนวนเพิ่มเติม ทั้งจากเดิมที่มีสองชนิดคือ Sinovac และ Astrazeneca ซึ่งจะได้จำนวนเพิ่มเติมในเดือนมิถุนายนนี้ คิดว่าจะเป็นไปตามแผน และในส่วนของวัคซีนจากบริษัทอื่น Sinopharm ซึ่งจะมีเพิ่มมาอีก ส่วน Pfizer จะมาในไตรมาสที่สามหรือสี่ อย่างไรก็ตามการส่งออกวัคซีนต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาลต้นทาง และได้ผ่านกระบวนการการนำเข้าทาง อย. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สำหรับงบประมาณในการจัดหาวัคซีน ได้ใช้งบพิเศษเพิ่มเติมทั้งพระราชกำหนดเงินกู้และงบกลาง จึงไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ พร้อมทั้งในส่วนของการใช้อำนาจผ่าน ศบค. ไม่ได้ให้อำนาจแก่ นรม. ผู้เดียว มีการหารือกับทุกภาคส่วนทั้งจากแพทย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอยืนยันในขีดความสามารถของวัคซีนที่มีอยู่ ทั้ง Sinovac Astrazeneca และ Sinopharm ซึ่งมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน แต่มีข้อจำกัดของวัคซีนแตกต่างกันไป ซึ่งทุกอย่างปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ในไทย และสถานการณ์โลก การแพร่ระบาดในสถานการณ์โลก ไทยพยายามทำอย่างดีที่สุดในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ และงบประมาณของวัคซีนมีไม่จำกัด ในส่วนของหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลมีภาระในการใช้จ่ายหลายส่วน อาทิ หนี้จำนำข้าว ซึ่งรัฐบาลได้ใช้จ่ายไปเจ็ดแสนห้าพันล้านแล้ว

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ