นายกฯ พบ ออท.บาห์เรน เร่งกระชับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระดับประชาชน

ข่าวทั่วไป Friday February 11, 2022 15:52 —สำนักโฆษก

นายกฯ พบ ออท.บาห์เรน เร่งกระชับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และความสัมพันธ์ระดับประชาชน

วันนี้ (11 กุมภาพันธ์ 2565) เวลา 15.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางสาวมุนา อับบาส มะฮ์มูด รอฎี (Ms. Muna Abbas Mahmood Radhi) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรบาห์เรนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้

นายกรัฐมนตรียินดีที่เอกอัครราชทูตบาห์เรนฯ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ไทยรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของอดีตนายกรัฐมนตรีบาห์เรน ซึ่งทรงมีบทบาทในการวางรากฐานความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ อีกทั้งพระกรุณาธิคุณในการส่งเสริมการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย จนทำให้ไทยและซาอุดีอาระเบียได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์เป็นปกติอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเอกอัครราชทูตบาห์เรนฯ จะสามารถส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ตลอดจนผลักดันให้เกิดความร่วมมือในสาขาที่ไทยกับบาห์เรนมีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม

เอกอัครราชทูตบาห์เรนฯ ยินดีที่ได้เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีในวันนี้ และยินดีที่ได้มาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย พร้อมยืนยันสานต่อความร่วมมือไทยและบาห์เรนด้านทวิภาคีในทุกมิติ ทั้งนี้ ไทยและบาห์เรนยังมีสาขาความร่วมมือที่มีศักยภาพอีกมาก โดยเฉพาะการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว หวังว่าจะเห็นพัฒนาความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างสองประเทศต่อไป และเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย หวังว่าจะมีการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนระดับสูง รวมทั้งการไปมาหาสู่ระหว่างภาคเอกชนและประชาชนมากขึ้น

ความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตบาห์เรนฯ ต่างเห็นพ้องกันว่า การส่งเสริมการค้าและการลงทุนเป็นหนึ่งในวาระที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสานต่อความร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุน รวมถึงความมั่นคงทางอาหาร โอกาสนี้ ไทยและบาห์เรนยินดีที่ศูนย์การค้าและบริการไทย (Thai Mart) ในบาห์เรนได้เปิดให้บริการแล้วเมื่อต้นปี 2564 โดยจะเป็นกลไกในการส่งเสริมการค้าระหว่างสองประเทศ และช่วยผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ไทยเป็นที่รู้จักในบาห์เรนและในภูมิภาคตะวันออกกลางยิ่งขึ้น ด้านเอกอัครราชทูตบาห์เรนฯ หวังว่า ไทยจะสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยไปลงทุนในบาห์เรนมากขึ้นโดยเฉพาะในภาคการผลิต การท่องเที่ยว และสุขภาพ

นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณที่บาห์เรนได้ฉีดวัคซีนให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ตลอดจนคนไทยในบาห์เรน และยินดีที่ทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในด้านสาธารณสุขอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะโครงการ Visiting Doctor Programme กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งเอกอัครราชทูตบาห์เรนฯ ยินดีสานต่อความร่วมมือให้ใกล้ชิดต่อไป

สำหรับความสัมพันธ์ระดับประชาชน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ไทยได้ประกาศใช้มาตรการ Test and Go หวังว่านักท่องเที่ยวชาวบาห์เรนจะกลับมาท่องเที่ยวไทยอีกครั้ง ด้านเอกอัครราชทูตบาห์เรนฯ เห็นพ้องกันว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทั้งสองประเทศจะเดินทางไปมาหาสู่กันได้มากขึ้น เป็นปัจจัยผลักดันความสัมพันธ์ระดับภาคเอกชนและประชาชน

ความร่วมมือในกรอบพหุภาคี นายกรัฐมนตรีขอบคุณบาห์เรนที่สนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะในกรอบองค์การความร่วมมืออิสลาม (Organisation of Islamic Cooperation: OIC) และการสนับสนุนไทยในประเด็นพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ของไทย พร้อมชื่นชมบาห์เรนที่ได้รับตำแหน่งประธานกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) วาระปี 2564-2565 ซึ่งไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงาน ACD พร้อมที่จะสนับสนุนบาห์เรนในการดำเนินงานอย่างเต็มที่ ด้านเอกอัครราชทูตบาห์เรนฯ สนใจเพิ่มพูนปฏิสัมพันธ์กับอาเซียนมากขึ้น โดยบาห์เรนได้เข้าเป็นอัครภาคีของสนธิสัญญาไมตรีและมิตรภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC) เมื่อปี 2562 หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเห็นความร่วมมือที่ใกล้ชิดและเป็นรูปธรรมระหว่างอาเซียนกับบาห์เรน และอาเซียนกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) ต่อไป

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ