นายกฯ ย้ำ รัฐบาลมีตัวชี้วัดชัดเจน ให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิมากขึ้น 3 เท่า ในเวลา 4 ปี เดินหน้าขยายตลาดส่งออก แนะใช้หลัก “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”

ข่าวทั่วไป Friday January 12, 2024 15:11 —สำนักโฆษก

นายกฯ ย้ำ รัฐบาลมีตัวชี้วัดชัดเจน ให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิมากขึ้น 3 เท่า ในเวลา 4 ปี เดินหน้าขยายตลาดส่งออก แนะใช้หลัก ?ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้?

วันนี้ (12 มกราคม 2567) เวลา 14.00 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ชั้น 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายด้านการเกษตรว่า เป้าหมายด้านเกษตร รัฐบาลมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน จะทำให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิมากขึ้น 3 เท่า ใน 4 ปีนี้ ซึ่งต้องทำตั้งแต่ ดิน น้ำ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ตลาด เงินทุน เทคโนโลยี และการแปรรูป ครบวงจร สำหรับพี่น้องเกษตรกร ในช่วงที่ผ่านมา ครม. ได้เห็นชอบการจ่ายเงินช่วยค่าเก็บเกี่ยว ไร่ละ 1,000 บาท 4.68 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท กรอบวงเงินรวมกว่า 54,336 ล้านบาท ผ่านบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. และช่วยเหลือชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสด ลด PM2.5 120 บาท/ตัน ซึ่งมีชาวไร่อ้อยที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 140,000 ราย ทั้งนี้ ครม. ได้มีมติพักหนี้เกษตรกรที่มีหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท ตามมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อย พร้อมสนับสนุนแหล่งเงินทุนและทรัพยากรที่เหมาะสมในการประกอบอาชีพ และถ่ายทอดความรู้และทักษะด้านการเงิน ให้สามารถบริหารจัดการหนี้สิน มีศักยภาพในการออมและ การลงทุนได้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

เรื่องของตลาดสินค้าเกษตร ช่วงที่ผ่านมาได้เดินหน้าเจรจาการค้า เพื่อเปิดตลาดใหม่ ๆ ให้กับพี่น้องเกษตรกรทุกกลุ่ม ทั้งพืช และปศุสัตว์ และได้ทราบมาว่าเราจะต้องให้ความสำคัญกับการปลูกพืชชนิดอื่น ๆ ด้วย แต่ในระยะยาว ขอให้นำหลักการ ?ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้? เพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ เพิ่มคุณภาพผลผลิต และลดต้นทุน การผลิตพัฒนาและทำธุรกิจผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูปมูลค่าเพิ่มสูง เดินหน้าเปิดตลาดสินค้าเกษตรใหม่ ๆ ให้ได้ราคาดี ขอให้กระทรวงเกษตรฯ จัดงบประมาณและขบวนการทำงานในการบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยนวัตกรรมเกษตรแม่นยำ (Precision Farming) ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชในพื้นที่ไม่เหมาะสม หามาตรการหรือแรงจูงใจ ให้ประชาชนปลูกพืชที่มีมูลค่าเพิ่มสูง การบริหารจัดการน้ำให้เกิดความสมดุล มีประสิทธิภาพเพื่อการอุปโภคบริโภค และเพื่อการเกษตร อาทิ เช่น การสร้างฝายพาราซอยซีเมนต์ เป็นต้น รวมถึง การแก้ไขปัญหาภัยแล้งและป้องกันอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นต่อพื้นที่การเกษตรและพื้นที่เศรษฐกิจ สนับสนุนให้เกษตรมีที่ดินทำกิน นำที่ดินของรัฐไปสร้างประโยชน์ รวมถึงการแปลง สปก. ให้เป็นโฉนด ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ใหม่ ๆ ทำการเกษตรยั่งยืน เกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย ทั้งหมดนี้ เพื่อทำให้เกษตรกรเลี้ยงตัวเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากภาครัฐ สร้างความเข้มแข็งตั้งแต่ระดับครัวเรือน ไปจนถึงระดับประเทศ

ที่มา: http://www.thaigov.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ