นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลพร้อมให้กระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางสามารถขยายวงเงินในส่วนของเงินทดรองจ่ายสำหรับจังหวัดที่มีความจำเป็นและได้รับผลกระทบเป็น 100 ล้านบาท จากเดิม 50 ล้านบาท โดยให้แต่ละจังหวัดประสานมาโดยตรงที่กรมบัญชีกลาง เบื้องต้นในขณะนี้ในส่วนของจ.นครราชสีมาและจ.ลพบุรีได้ของบประมาณเข้ามาจังหวัดละกว่า 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้มีการรวบรวมหลักเกณฑ์ความช่วยเหลือให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะน้ำท่วมหนัก โดยมอบให้ทางกระทรวงมหาดไทยเร่งไปสำรวจความเสียหายทั้งหมด และนำเสนอครม.ในสัปดาห์หน้า
สำหรับประชาชนที่ไม่สามารถขนย้ายทรัพย์สินได้ทัน หรืออยู่ในพื้นที่ที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ทางรัฐบาลจะมีการออกมาตรการช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ ทั้งกรณีที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความจำเป็น
นอกจากนี้ ได้มีการะดมทรัพยากรจากทุกหน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นจากกองทัพที่นำเรือท้องแบนไปช่วยเหลือประชาชน รวมถึงกระทรวงศึกษาและกระทรวงสาธารณสุขด้วย และจะมีการประสานให้หน่วยงานต่างๆ มีการตั้งจุดรับบริจาคอย่างชัดเจน
ส่วนกรณีโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ ก็จะมีการประสานในเรื่องการส่งต่อหรือย้ายผู้ป่วย ซึ่งในช่วง 14.00 น.วันนี้จะมีการติดต่อสอบถามไปผ่านระบบวีดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ล่าสุดด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมหนักที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากการที่มีการระบายน้ำออกจากเขื่อน แต่เกิดจากปริมาณน้ำฝนมีปริมาณมากกว่าปกติถึงเท่าตัว อีกทั้งในจ.นครราชสีมาในบางพื้นที่มีการก่อสร้างกีดขวางทางน้ำทำให้ทิศทางน้ำมีการเปลี่ยนแปลงไป พร้อมยอมรับว่าการแจ้งเตือนในบางพื้นที่ยังมีปัญหาอยู่
ทั้งนี้ ใน จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิต 3 คน สูญหาย 1 คน ส่วนจ.ลพบุรีมีผู้เสียชีวิต 2 คน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้มีการหารือกับผู้ว่ากทม. ถึงการเตรียมการรับมือแล้ว ซึ่งได้รายงานว่าได้มีการเตรียมรับมือหากน้ำไหลเข้ามา กทม.