นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า สำนักวิจัยและพัฒนาข้าวได้พัฒนาสายพันธุ์ข้าวใหม่ ซึ่งได้รับการรับรองพันธุ์จากคณะกรรมการพิจารณาพันธุ์ กรมการข้าว จำนวนรวม 5 พันธุ์ ได้แก่ ข้าวพันธุ์ กข45 กข47 ช่อลุง 97 ไข่มดริ้น 3 และ กข16 เพื่อแนะนำให้เกษตรกรปลูก
นอกจากมีพันธุ์พื้นเมืองที่เกษตรนิยมปลูกแล้ว ยังมีพันธุ์ที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ให้ปลูกในสภาพพื้นที่น้ำลึกและพื้นที่ที่มีการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล เพื่อเป็นทางเลือกให้ชาวนาปลูกในสภาพพื้นที่ที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ได้ตรงความต้องการของชาวนาไทยอย่างแท้จริง
โดยข้าวเจ้าพันธุ์ กข45 เป็นข้าวเจ้าน้ำลึกไวต่อช่วงแสง ต้นสูง 170 เซนติเมตร ผลผลิต 520 กก./ไร่ เก็บเกี่ยว 25 พฤศจิกายน - 2 ธันวาคม เมล็ดยาวเรียว คุณภาพการสีดีมาก เมล็ดข้าวขาวใส มีท้องไข่น้อย สีเป็นข้าว 100 เปอร์เซ็นต์ได้ ปริมาณอมิโลสต่ำ (16.35%) คุณภาพการหุงต้มรับประทานดี ข้าวสุกนุ่มเหนียว และมีกลิ่นหอม เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาน้ำฝนภาคกลางและภาคตะวันออก ที่มีระดับน้ำในนาไม่เกิน 100 เซนติเมตร แต่อ่อนแอมากต่อโรคไหม้ และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ไม่แนะนำให้ปลูกในพื้นที่ที่มีการระบาดของ เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
ข้าวเจ้าพันธุ์ กข47 เป็นข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง ต้นเตี้ย (90-100 เซนติเมตร) อายุ 104 — 107 วัน (หว่านน้ำตม) และ 112 วัน (ปักดำ) ผลผลิต 793 กก./ไร่ เป็นข้าวเจ้าเมล็ดยาวเรียว ท้องไข่น้อย คุณภาพการสีดีถึงดีมาก สามารถสีเป็นข้าวสาร 100% ได้ ค่อนข้างต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลดีกว่าข้าวพันธุ์ กข41 และค่อนข้างต้านทานโรคไหม้ได้ดีกว่าพันธุ์พิษณุโลก 2 เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาชลประทานภาคเหนือตอนล่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและโรคไหม้ แต่อ่อนแอต่อโรคขอบใบแห้งและค่อนข้างอ่อนแอต่อเชื้อสาเหตุโรคไหม้ในภาคกลาง ไม่ทนอากาศเย็นช่วงข้าวท้อง จึงไม่ควรปลูกในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
ข้าวเจ้าพันธุ์ ช่อลุง 97 เป็นข้าวไวต่อช่วงแสงพันธุ์พื้นเมืองที่เกษตรกรนิยมปลูกมากที่สุดในจังหวัดปัตตานี และสงขลา นำมาปลูกคัดเลือกสายพันธุ์บริสุทธิ์แบบรวงต่อแถว ต้นสูง 197 เซนติเมตร ผลผลิต 564/ไร่ มีคอรวงยาวเหมาะสำหรับการเก็บเกี่ยวด้วยแกระ เก็บเกี่ยวปลายเดือนกุมภาพันธ์ คุณภาพเมล็ด และการสีดี ข้าวสุกร่วน เหมาะสำหรับปลูกในสภาพนาสวนนาน้ำฝน บริเวณที่ราบในเขตจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสงขลา ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคไหม้ และอ่อนแอมากต่อเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลข้าวเจ้าพันธุ์
ไข่มดริ้น 3 เป็นข้าวไวต่อช่วงแสงพันธุ์พื้นเมืองจากจังหวัดนครศรีธรรมราช นำมาปลูกคัดเลือกสายพันธุ์บริสุทธิ์แบบรวงต่อแถว ต้นสูง 176 เซนติเมตร ผลผลิต 436 กก./ไร่ เก็บเกี่ยวกลางเดือนกุมภาพันธ์ คุณภาพการสีดี ท้องไข่น้อย ข้าวสวยค่อนข้างร่วนและค่อนข้างนุ่ม เหมาะสำหรับปลูกในเขตปลูกข้าวเพื่อบริโภคในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงที่มีนิเวศการปลูกข้าวคล้ายกัน อ่อนแอต่อโรคไหม้
ข้าวเหนียวพันธุ์ กข16 เป็นข้าวเหนียวไวต่อช่วงแสง ต้นค่อนข้างสูง (133-149 เซนติเมตร) ผลผลิต 663 กก./ไร่ ค่อนข้างต้านทานต่อโรคไหม้ ในภาคเหนือตอนบน เก็บเกี่ยวกลางเดือนพฤศจิกายน อายุสั้นกว่าพันธุ์ กข6 ประมาณ 1 สัปดาห์ และต้นเตี้ยกว่าข้าวพันธุ์ กข6 จึงลดปัญหาข้าวหักล้มในระยะเก็บเกี่ยว คุณภาพการหุงต้มรับประทานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค มีกลิ่นหอม เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาน้ำฝนภาคเหนือตอนบน บริเวณที่ฝนหมดเร็ว และในพื้นที่ที่เกษตรกรต้องการปลูกพืชหลังฤดูทำนา ค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคขอบใบแห้ง แมลงบั่ว เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และเพลี้ยกระโดดหลังขาว