สวนดุสิตโพลเผยคนกรุงมองทำแท้งเป็นสิทธิส่วนบุคคล หนุนแก้ ก.ม.-ให้ความรู้

ข่าวทั่วไป Sunday November 21, 2010 12:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล จำนวนทั้งสิ้น 1,458 คน ระหว่างวันที่ 18-21 พ.ย.53 กรณีพบศพเด็กทารกจำนวนมาก ภายในวัดไผ่เงิน ซึ่งขณะนี้มียอดสูงถึง 2,000 ศพ ได้สร้างความตกตะลึงและกลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมไทยต่างให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวชเข้ามาทำการตรวจสอบ และสืบสวนสอบสวนผู้เกี่ยวข้องต่างๆอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสัปเหร่อในวัดยอมสารภาพว่ารับเงินจากคลีนิคทำแท้ง 5 แห่งให้นำศพมาทิ้งไว้

โดยความคิดเห็นของประชาชน กรณี พบศพเด็กทารกจำนวนมากที่วัดไผ่เงิน ส่วนใหญ่ 62.18% สร้างความตกตะลึงและตกใจว่าทำไมถึงได้มีการทำแท้งเป็นจำนวนมากมายขนาดนี้ รองลงมาเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม เป็นการทำบาป และผิดกฎหมาย 15.24% เป็นข่าวที่สังคมไทยต่างให้ความสนใจและมีการติดตามข่าวทั้งจากสื่อไทยและสื่อต่างประเทศ 9.38% อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อื่นๆที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวน สอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงโดยเร็ว 7.11% และควรนำเรื่องนี้มาเป็นอุทาหรณ์สอนใจและหาแนวทางแก้ไขโดยเร่งด่วน 6.09%

ประชาชนคิดว่าการทำแท้งเป็นสิทธิส่วนบุคคล /มาจากความจำเป็นของแต่ละคนหรือไม่ ส่วนใหญ่ 47.17% เห็นว่าเป็นเพราะ ถือว่าเป็นการตัดสินใจของผู้ที่ให้กำเนิดเอง สิ่งที่เกิดขึ้นอาจมาจากความไม่พร้อมหรือความจำเป็นของแต่ละคน ขณะที่ความเห็น 30.19% ไม่แน่ใจเพราะ คิดว่าคนที่มาทำแท้งน่าจะมีเหตุผลหรือความจำเป็นที่แตกต่างกันออกไป ในใจลึกๆแล้วเชื่อว่าคนเป็นแม่ย่อมรักลูก และ 22.64% ไม่เป็นเพราะ ตามกฎหมายได้ระบุไว้แล้วว่าการทำแท้งเป็นเรื่องผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม ฯลฯ

ถ้าจะมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ตรงกับเรื่องนี้ออกมา ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ ส่วนใหญ่เห็นด้วย 65.62% เพราะ สังคมไทยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมาก การมีเพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกันเกิดขึ้นได้ง่าย บางคนคิดว่าการทำแท้งเป็นเรื่องปกติ หรือเป็นทางออกที่ดีที่สุด ขณะที่ความเห็นไม่แน่ใจ 21.72% เพราะ การแก้ไขกฎหมายอย่างเดียวคงไม่ได้ผล ควรให้ความรู้หรือให้การศึกษาในเรื่องนี้ควบคู่ไปด้วยจะดีกว่า และไม่เห็นด้วย 12.66% เพราะ ขึ้นอยู่กับความคิดและวิจารณญาณของแต่ละคน กฎหมายหรือข้อห้ามต่างๆ เกี่ยวกับการทำลายชีวิต ทำผิดศีลธรรม ก็มีระบุไว้อยู่แล้ว ฯลฯ

           กรณีเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ประชาชนคิดว่าผลกระทบในภาพรวมที่สังคมได้รับ คือ อันดับ 1  สภาพสังคมที่แย่ลงอย่างมาก  ทำให้เกิดพฤติกรรม การลอกเลียนแบบอย่างผิดๆ          34.38%  รองลงมา  คนในสังคมไทยปัจจุบันมีสภาพจิตใจที่ตกต่ำ แย่ลง /ขาดคุณธรรม จริยธรรม   32.81%  ด้านมนุษยธรรม การทำลายชีวิตของมนุษย์ด้วยกันเอง   19.12% การขาดจรรยาบรรณทางด้านวิชาชีพ /เห็นแก่เงินทอง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน   13.69%

ส่วน แนวทางป้องกัน /แก้ไขในเรื่องนี้ อันดับ 1 การให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษา การป้องกัน การคุมกำเนิด ในวิชาเรียนของเด็กให้เหมาะสมตามระดับชั้นเรียน 36.09%

อันดับ 2   พ่อแม่/คนในครอบครัวต้องให้ความรัก ความอบอุ่น /การดูแลเอาใจใส่ลูกหลานอย่างใกล้ชิด  29.14%  อันดับ 3  การตรวจสอบ ปราบปรามคลีนิคที่ทำผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด   15.58% อันดับ 4     หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฯ ควรร่วมมือกันหาทางป้องกันหรือประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่ให้ความรู้ในเรื่องการตั้งครรภ์ การทำแท้ง หรือเรื่องสิทธิมนุษยชนต่างๆ ฯลฯ 14.37% และอันดับ 5    การใช้สื่อต่างๆที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอข่าวอย่างเหมาะสม และการให้ความรู้ด้วยการสร้างเป็นละครหรือเรื่องสั้น  4.82%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ