ดุสิตโพลเผยคนยี้ขึ้นเงินเดือนส.ส.-ส.ว. เหตุทำงานไม่คุ้ม มีแต่ทะเลาะกัน

ข่าวทั่วไป Wednesday December 15, 2010 15:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการ องค์กรอิสระ และ ส.ส. ส.ว. รวมทั้งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น พบว่า ในแง่การขึ้นค่าจ้างให้แก่ผู้ใช้แรงงาน ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าเป็นเพราะค่าครองชีพในปัจจุบันสูงขึ้น และสินค้าหลายประเภทมีราคาแพง โดยประชาชน 98.67% เห็นว่าสมควรที่จะขึ้นค่าจ้างให้ เพราะผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่เงินเดือนน้อย รายได้ไม่พอกับรายจ่าย อีกทั้งต้องแบกรับภาระหนี้สินจำนวนมาก

ส่วนการขึ้นเงินเดือนให้แก่ข้าราชการนั้น ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการในการทำงานต่อไป โดยประชาชนส่วนใหญ่ 77.81% เห็นด้วยกับการขึ้นเงินเดือนดังกล่าว

ขณะที่การขึ้นเงินเดือนให้แก่นักการเมือง ส.ส. และ ส.ว.นั้น ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า ยังมองไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมหรือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองมากพอ อีกทั้งมีแต่ทะเลาะกัน โดยประชาชนส่วนใหญ่ 86.40% ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าเงินเดือนที่ได้รับก็พอสมควรอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีเบี้ยประชุมและเบี้ยค่าตอบแทนอื่นๆ

ส่วนการปรับขึ้นเงินเดือนจะทำให้การทำงานของ ข้าราชการ ส.ส. และ ส.ว. มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่นั้น ประชาชนส่วนใหญ่ 89.95% ระบุว่า เหมือนเดิม เพราะเห็นได้จากพฤติกรรมของข้าราชการและนักการเมืองบางคนที่ผ่านมายังคงน่าผิดหวัง ทำงานไม่คุ้มค่า มัวแต่ทะเลาะเบาะแว้งกัน มุ่งหวังแต่อำนาจและผลประโยชน์ ส่วนอีก 10.05% ระบุว่า น่าจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเป็นขวัญ กำลังใจในการทำงาน

สำหรับสิ่งที่ประชาชนอยากฝากบอก 3 อันดับแรกในเรื่องของการปรับขึ้นเงินเดือนให้แก่กลุ่มบุคคลต่างๆ นั้น อันดับ 1 อยากให้รัฐบาลดำเนินการในเรื่องนี้ด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม จริงใจ ตรงไปตรงมา อันดับ 2 การขึ้นเงินเดือนเป็นเรื่องที่ดี แต่อาจเป็นเพียงการแก้ปัญหาในระยะสั้น การพัฒนาประเทศชาติ เศรษฐกิจ และสังคมให้เจริญรุ่งเรืองเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยดีขึ้น และอันดับ 3 คณะทำงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการปรับขึ้นเงินเดือน ควรศึกษาพิจารณาข้อมูลรายละเอียดต่างๆให้รอบคอบ คำนึงถึงผลดี-ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นตามมาภายหลัง

อนึ่ง ผลสำรวจดังกล่าว มาจากความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,854 คน ดำเนินการสำรวจในระหว่างวันที่ 13-15 ธันวาคม 2553


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ