นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความลปอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 54 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 ม.ค.54 ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ในช่วง 7 วันระวังอันตราย พบว่า เกิดอุบัติเหตุ รวม 408 ครั้ง ลดลงจากปี 53 มีผู้เสียชีวิต 47 คน ผู้บาดเจ็บ 435 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา 35.29% รองลงมา ขับรถเร็วเกินกำหนด 22.79% พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้บาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย และรถจักรยานยนต์เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด รองลงมาคือ รถปิกอัพ
โดยจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 4 ราย รองลงมา ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สกลนคร และอุบลราชธานี จังหวัดละ 3 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 18 คน รองลงมา ได้แก่ พิษณุโลก 17 คน จังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ รวม 6 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยภูมิ นนทบุรี ยโสธร สมุทรสงคราม และอำนาจเจริญ
อย่างไรก็ตามสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน (วันที่ 29 ธ.ค.53 — 2 ม.ค. 54) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,881 ครั้ง ลดลงจากปี 53 มีผู้เสียชีวิตรวม 281 คน ผู้บาดเจ็บรวม 3,091 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสูด ได้แก่ เชียงราย 103 ครั้ง รองลงมา ได้แก่ พิษณุโลก 91 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ลพบุรี 12 คน รองลงมา ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ 10 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 110 คน รองลงมา ได้แก่ พิษณุโลก 99 คน
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้เป็นวันหยุดวันสุดท้าย ซึ่งคาดว่าประชาชนจะเดินทางกลับเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีปริมาณรถหนาแน่นบนถนนสายหลัก ศปถ.ขอให้จังหวัดดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง มุ่งเน้นการปฏิบัติงานบนถนนสายหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางแก่ประชาชน โดยกวดขันดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกำหนดและเมาสุราขณะขับรถ เนื่องจากประชาชนอาจเร่งรีบเดินทางกลับให้ถึงจุดหมายโดยเร็ว จึงอาจขับรถด้วยความประมาท รวมทั้งให้ตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารและพนักงานขับรถโดยสารอย่างเข้มงวด ณ สถานีต้นทางและปลายทาง และให้พนักงานขับรถโดยสารรายงานตัวต่อผู้ตรวจการ ณ จุดตรวจบนถนนสายหลักและสายรอง สถานีขนส่ง และจุดจอด เพื่อตรวจสภาพความพร้อมของร่างกายและป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุรายใหญ่
นอกจากนี้ ขอให้เข้มงวดการคาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ขับขี่และโดยสารเป็นพิเศษ เพื่อบรรเทาความรุนแรงหากเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ช่วงการเดินทางกลับคาดว่าจะมีปริมาณการใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องใช้เวลาในการเดินทางมากกว่าปกติ ผู้ขับขี่ควรเลือกใช้เส้นทางที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพการจราจรติดขัด สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางผ่านจังหวัดขนาดใหญ่ ขอให้ใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองหรือติดตามข่าวสารการจราจร