สถานีโทรทัศน์ที่รายงาน สถานการณ์น้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) ล่าสุดว่า คันแนวกำแพงด้านขวาใกล้กับบริเวณที่พักคนงานได้พังลงมาแล้ว ทำให้ปริมาณน้ำโดยรอบทะลักเข้ามามาก และเจ้าหน้าที่ได้ยอมรับว่า ไม่สามารถรักษาพื้นที่ 2,500 ไร่ในนิคมฯ ไว้ได้ เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้โทรศัพท์ไปรายงานต่อนายกรัฐมนตรีแล้วว่า ไม่สามารถรับมือได้แล้ว
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทยอยอพยพคน และขนอุปกรณ์เครื่องมือออกจากพื้นที่แล้ว
ส่วนปริมาณถนนสายเอเชีย ปริมาณน้ำสูงขึ้น 40 ซม. คาดว่า ในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.ไม่สามารถสัญจรได้ ขณะที่ถนนพหลโยธิน เจ้าหน้าที่ก็เกรงว่าจะขยายวงกว้างมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ ในช่วงเช้า สถานการณ์น้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) เข้าสู่ภาวะวิกฤติ เนื่องจากคันดินกั้นน้ำด้านขวาและด้านหลังบางจุดเริ่มทรุดตัวลง ทำให้น้ำไหลทะลักเข้านิคมฯแล้ว ขณะที่รถแบคโฮ 20 คันที่ก่อนหน้านี้ทำหน้าที่ตักดินถมคันกั้นน้ำตลอดเวลาได้ถอยออกมาแล้ว เพราะปริมาณน้ำเข้าไปมากจนไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งอพยพคนงานและคนในพื้นที่นิคมฯ ออกมาแล้ว เพราะไม่แน่ใจว่าจะสามารถดูแลสถานการณ์ได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการพยายามซ่อมแซมคันดินที่ทรุดตัวลง แม้ว่าปริมาณน้ำจะทะลักเข้ามายังภายในนิคมฯ ค่อนข้างเร็วและแรง ผู้บริหารและคนงานของโรงงานบางแห่งยังคงปักหลักอยู่ภายในโรงงานเพื่อรอป้องกันน้ำไหลทะลักเข้าสู่โรงงาน และพยายามหาวิธีอื่น ๆ มาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น การขุดคูรับน้ำขนาดใหญ่ดักไว้หน้าโรงงาน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จ.อยุธยา ยอมรับว่า สถานการณ์ของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคอยู่ในจุดเสี่ยงภาวะน้ำท่วมหนักเหมือนกับนิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนครและสวนอุตสาหกรรมโรจนะ แต่ทุกฝ่ายก็ยังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสกัดกั้นการไหลของน้ำที่ทะลักเข้ามา ส่วนนิคมอุตสาหกรรมที่น่าเป็นห่วงในระยะต่อไปก็คือ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และนิคมอุตสาหกรรมนวนคร