ปภ.เผยมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 26 จ.,ผู้เสียชีวิต 298 ราย สูญหาย 2 คน

ข่าวทั่วไป Friday October 14, 2011 16:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยรวม 26 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี ร้อยเอ็ด กำแพงเพชร ตาก และราชบุรี ครอบคลุม 188 อำเภอ 1,364 ตำบล 10,443 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 761,044 ครัวเรือน 2,250,469 คน ผู้เสียชีวิต 289 ราย สูญหาย 2 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 10,023,824 ไร่ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ บ่อปลา 156,238 บ่อ ด้านปศุสัตว์ สัตว์ได้รับผลกระทบรวม 11,868,448 ตัว น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรผ่านได้รวม 247 สาย แยกเป็น ทางหลวง 71 สาย ใน 18 จังหวัด ทางหลวงชนบท 176 สาย ใน 34 จังหวัด

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำ 99% เขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำ 99% เช่นกัน ส่วนเขื่อนแควน้อยมีปริมาณน้ำ 100% และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำ 131%

ขณะที่สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่างๆ ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีปริมาณน้ำมากและระดับน้ำล้นตลิ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะลุ่มน้ำมูลที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา, อ.สตึก จ.บุรีรัมย์, อ.ราษีไศล อ.กันทรารมย์ อ.ทับทัน จ.ศรีสะเกษ, อ.ตระการพืชผล อ.อำเภอเมือง จ.อุบลราชธานี ลุ่มน้ำชีที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น, อ.โกสุมพิสัย อ.เมือง จ.มหาสารคาม, อ.จังหาร อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด ลุ่มน้ำสะแกกรังที่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี ลุ่มน้ำท่าจีนที่ อ.เมือง อ.สองพี่น้อง อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี, อ.บางเลน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม

ส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ 4,686 ลบ.ม./วินาที มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,616 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำไหลผ่านที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 3,847 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำใน 10 จังหวัดที่อยู่ริมแม่น้ำ ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่งที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

นายวิบูลย์ กล่าวว่า ช่วงวันที่ 14-15 ต.ค.นี้ พื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีฝนตกอีก แต่ในปริมาณไม่มากนัก ส่วนในช่วงวันที่ 16-17 ต.ค.จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงขอเตือนให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณในพื้นที่ดังกล่าว โดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบสถานการณ์น้ำท่วมอยู่แล้ว และพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่จะเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำออก ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำท่วมขังเพิ่มสูงขึ้น และเกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งได้

สำหรับพื้นที่ที่ยังต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ได้แก่ จ.จันทบุรี (อ.มะขาม อ.เขาคิฌกูฏ อ.ขลุง) ตราด(อ.เกาะช้าง อ.เขาสมิง อ.บ่อไร่) จึงขอให้จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม รวมทั้งหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ หากน้ำในลำห้วยเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดินบนภูเขา มีต้นไม้ขนาดเล็กไหลมากับน้ำ มีเสียงดังผิดปกติจากป่าต้นน้ำ ให้อพยพออกจากพื้นที่ไปตามเส้นทางที่ปลอดภัย และพ้นจากแนวการไหลของน้ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ