รมว.อุตสาหกรรม สั่งนิคมฯในพื้นที่ กทม.ฝั่งตะวันออกพร้อมรัมมือน้ำท่วม

ข่าวทั่วไป Thursday October 20, 2011 18:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รมว.อุตสาหกรรม สั่งการให้นิคมอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกทั้ง 7 แห่ง เตรียมมาตรการอพยพ ขนย้ายเครื่องจักร พร้อมสนับสนุนให้ต่อสู้กับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นเพื่อให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความเชื่อมั่น ด้านผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งปนะเทศไทย(กนอ.) สั่งให้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมบางชันและลาดกระบังหยุดผลิต เตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ ขณะที่ภาคเอกชนเชื่อหากรัฐดูแลระดับน้ำท่วมให้สูงไม่เกิน 2 เมตรจะไม่เกิดผลกระทบรุนแรง

"ขณะนี้ได้สั่งให้นิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ 7 แห่ง ได้แก่ นิคมฯบางชัน, ลาดกระบัง, อัญธานี, เวลโกรว์, บางพลี, บางปู และนิคมฯทีเอฟดี เตรียมแผนอพยพแรงงาน และเคลื่อนย้ายเครื่องจักรและสินค้า เพื่อลดความเสียหาย" น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม กล่าว

ที่ผ่านมามีนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายไปแล้ว 6 แห่ง ดังนั้นแผนรับมือแบบเดิมๆ จะไม่สามารถนำมาใช้ได้ โดยปริมาณน้ำจะเข้ามาโจมตีอย่างรุนแรง และหากมีมาตรการป้องกันล่วงหน้าแม้เหตุการณ์ไม่เกิดขึ้นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าน้ำทะลักเข้ามาจริงจะได้ลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

"ได้ย้ำว่าอย่าต่อสู้แบบวัดดวง แต่ต้องเตรียมการอพยพให้พร้อม ซึ่งนักลงญี่ปุ่นต่างคาดหวังให้รัฐบาลป้องนิคมฯที่เหลือให้เสียหายน้อยที่สุด ถ้าคราวนี้พลาดอีกก็ไม่สามารถแก้ตัวได้เลย" น.พ.วรรณรัตน์ กล่าว

ด้านนางมณฑา ประนุทนรพาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการในนิคมฯบางชัน และลาดกระบัง หยุดประกอบกิจการ และทำการป้องกันเครื่องจักร ขนย้ายอุปกรณ์ และสินค้า รวมทั้งขนย้านสารเคมีที่มีพิษไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น

ขณะที่นายพงษ์เดช ศรีวชิรประดิษฐ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทย ฮอนด้า แมนูแฟกเจอร์ริ่ง จำกัด กล่าวว่า แม้ว่านิคมฯอุตสาหกรรมได้เสียหายจากน้ำท่วมไปแล้ว 6 แห่ง ทำให้ฮอนด้าได้รับผลกระทบพอสมควร แต่ก็รู้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่ก็ยังคาดหวังให้รัฐบาลสู้ต่อไปถ้ารัฐบาลสู้ภาคเอกชนก็พร้อมที่จะสู้ด้วยกัน

โดยในส่วนของโรงงานฮอนด้าที่นิคมฯลาดกระบังนั้น ขณะนี้สายการผลิตรถมอเตอร์ไซด์ได้หยุดดำเนินการไปแล้ว 4-5 วัน เหลือเพียงการผลิตอุปกรณ์เพื่อส่งออก นอกจากนี้ล็อกตัวอาคารทางเข้า-ออก วางแนวกระสอบทรายรอบโรงงาน และเคลื่อนย้ายมอเตอร์ไซด์ขึ้นไปไว้ชั้น 2 ซึ่งสูงกว่า 5 เมตร ถอดอุปกรณ์ไฟฟ้าในเครื่องจักรไว้ที่สูง จึงมีความมั่นใจว่าตัวสินค้ามีความปลอดภัยแน่นอน รวมทั้งยังได้ส่งพนักงานไปประจำคอยดูแลระดับนในคลองตลอดเวลา เพื่อจะได้รับมือได้ทัน

ขณะที่นายสุรพร สิมะกุลธร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงงงานที่อยู่ในนิคมฯลาดกระบัง กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องป้องกันนิคมฯที่เหลือให้ได้ ถ้าป้องกันไม่ได้รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ คนบริหารประเทศจะต้องทำงานเป็น ถ้าไม่เป็นต้องถอยให้คนที่ทำเป็นเข้ามาจัดการ อย่าทนอยู่จนต้องให้ประชนออกมาไล่

โดยขณะนี้ต้องควบคุมกระจายน้ำออกใปให้ระดับความสูงของน้ำที่ไหลท่วมให้ไม่เกิน 2 เมตร เพราะถ้าสูงเกิน 2.30 เมตร นิคมฯต่างๆไม่สามารถรับมือได้ รวมทั้งจะต้องเตรียมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้ให้พร้อม เพื่อรองรับหากน้ำเข้าท่วมนิคมก็ต้องยันไว้เร่งสูบออกไม่ให้เกิน 2 เมตร ทั้งนี้หากรัฐบาลรักษาโรงงานที่เหลือไว้ไม่ได้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยที่คาดว่าจะอยู่ระดับ 5% อาจจะติดลบ 5% ก็ได้ เพราะโรงงานที่ไม่ถูกน้ำท่วมไม่สามารถผลิตสินค้าได้ เพราะขาดชิ้นส่วนการผลิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ