นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประเมินมาตรการ 3 ตัด "ตัดไฟ-เน็ต-น้ำมัน" เพื่อตัดตอนขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเมียนมาหลังดำเนินการครบ 3 เดือนว่า ถือเป็นประโยชน์และประสบความสำเร็จ และปัญหาตามแนวชายแดนอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ถือว่าลดน้อยถอยลงไปมาก โดยมีการย้ายแหล่งไปยังพื้นที่อื่น ส่วนเมื่อครบ 4 เดือนก็จะมีการประเมินสุดท้ายว่าจะขยายผลต่ออย่างไร
ส่วนปัญหาในประเทศกัมพูชาอยู่ระหว่างการประสานงานอยู่ แต่ต้องติดตามดูเรื่องขบวนการคอลเซ็นเตอร์จะมีการประสานขอตัวการที่ใหญ่กว่าเดิม แต่ยอมรับว่าปัญหาบริเวณแนวชายแดนลาวและกัมพูชา หากจะใช้มาตรการ 3 ตัดคงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะสามารถแสวงหาจากแหล่งอื่นได้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า มาตรการ Seal Stop Safe นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์แล้ว ยังสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติด แต่เป็นขบวนการที่ใหญ่และแทรกซึมไปทุกภาคส่วน มีกลุ่มนอกประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็สามารถจับกุมดำเนินคดีได้อยู่เรื่อย ๆ คิดเป็น 60% จากที่เคยมีมา ถึงว่าเป็นมาตรการที่ได้ผล และสิ่งสำคัญคือพยายามที่จะขยายผลไปยังตัวการใหญ่
ส่วนกรณีที่มีผู้ประกอบการตามแนวชายแดนมองว่า มาตรการ 3 ตัดไม่ได้ผลเมื่อเทียบกับผลกระทบที่ทำให้การส่งออกลดลงนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีการประเมินว่าผู้ค้ารายย่อยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากมีความพยายามที่จะปิดท่าข้าม ซึ่งจะกระทบกับผู้ประกอบการบางส่วน เนื่องจากท่าข้ามถือเป็นจุดโหว่ที่สุด การนำเข้าและส่งออกสินค้ายังเปิดตามปกติตามเส้นทางทางการ แต่สินค้าที่ควบคุมคือ สินค้าประเภทที่จะนำไปสู่การใช้งานของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์