
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2568 และส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในฤดูแล้ง ปี 2568/2569
ทั้งนี้ ตามปฏิทินการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำช่วงฤดูฝน ปี 2568 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.68 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) ร่วมกับทุกภาคส่วน ถอดบทเรียนการบริหารจัดการน้ำฤดูฝน ปี 2567 มาปรับปรุงมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น จำนวน 9 มาตรการ
รวมทั้งได้จัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2568 และส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในฤดูแล้ง ปี 2568/2569 ดังนี้
1) มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 เป็นการกำหนดกรอบการดำเนินงานในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น โดยมาตรการรับมือฤดูฝนส่วนใหญ่ยังคงเดิม แต่ยุบรวมมาตรการจากเดิม 10 มาตรการ เป็น 9 มาตรการ (โดยยุบรวมมาตรการที่ 8 สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชนในการให้ข้อมูลสถานการณ์ และมาตรการที่ 9 การสร้างการรับรู้ ศูนย์บริการสถานการณ์น้ำ และประชาสัมพันธ์) และมีการปรับเพิ่มการดำเนินงานภายใต้มาตรการ เพื่อกำหนดรายละเอียดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ได้แก่
- มาตรการที่ 1 คาดการณ์ชี้เป้าและแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม และพื้นที่เสี่ยงฝนทิ้งช่วง (ก่อนฤดูฝน-ตลอดช่วงฤดูฝน)
- มาตรการที่ 2 ทบทวน ปรับปรุง เกณฑ์บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำ อาคารควบคุมบังคับน้ำอย่างบูรณาการในระบบลุ่มน้ำ และกลุ่มลุ่มน้ำ (ก่อนฤดูฝน-ตลอดช่วงฤดูฝน)
- มาตรการที่ 3 เตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือ อาคารชลศาสตร์ ระบบระบายน้ำ โทรมาตร บุคลากรประจำพื้นที่เสี่ยงให้สามารถรองรับสถานการณ์ในช่วงน้ำหลาก และฝนทิ้งช่วง (ก่อนฤดูฝน-ตลอดช่วงฤดูฝน)
- มาตรการที่ 4 ตรวจสอบพร้อมติดตามความมั่นคงปลอดภัย คันกันน้ำ ทำนบ พนังกั้นน้ำ (ก่อนฤดูฝน-ตลอดช่วงฤดูฝน)
- มาตรการที่ 5 เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำอย่างเป็นระบบ (ก่อนฤดูฝน-ตลอดช่วงฤดูฝน)
- มาตรการที่ 6 ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัยและฟื้นฟูสภาพให้กลับสู่สภาพปกติ (ตลอดช่วงฤดูฝน)
- มาตรการที่ 7 เร่งพัฒนาและเก็บกักนำในแหล่งน้ำทุกประเภทช่วงปลายฤดูฝน (ตลอดช่วงฤดูฝน)
- มาตรการที่ 8 สร้างการรับรู้ความเสี่ยง และสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายในการติดตามเฝ้าระวัง รับมือภัยด้านน้ำ (ก่อนฤดูฝน-ตลอดช่วงฤดูฝน)
- มาตรการที่ 9 ติดตามประเมินผลปรับมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภัย (ตลอดช่วงฤดูฝน)
2) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2568 และส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในฤดูแล้ง ปี 2568/2569 มีสาระสำคัญ เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดทำแผนงานโครงการการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ สามารถเตรียมแผนงานโครงการได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และสอดคล้องกับมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568
โดยมีการปรับปรุงรายละเอียดในบางประเด็น เช่น ปรับจำนวนกิจกรรม และรายละเอียดแผนงานภายใต้โครงการ จาก 5 กิจกรรม เป็น 6 ประเภท และปรับระยะเวลาการรายงานผลการดำเนินงานให้ สทนช.ทราบ จากทุกวันที่ 1 ของทุกเดือนจนกว่าการดำเนินโครงการจะแล้วเสร็จ เป็นทุกวันที่ 5 ของทุกเดือน จนกว่าการดำเนินโครงการจะแล้วเสร็จ ดังนี้
- การซ่อมแซมอาคารชลศาสตร์ โดยซ่อมแซมอาคารชลศาสตร์ที่ชำรุดเสียหายจากการใช้งาน หรือการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การควบคุม การระบายน้ำ และการเก็บกักน้ำ ให้สามารถใช้งานได้ เช่น ซ่อมแซมพนังกั้นน้ำ/คันกั้นน้ำ ซ่อมแซมระบบส่งน้ำ/ระบายน้ำ ซ่อมแซมอาคารบังคับน้ำ เป็นต้น
- การปรับปรุงอาคารชลศาสตร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอาคารเดิมให้เหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน หรือสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต หรือขยายขอบเขตการรับประโยชน์ เช่น ปรับปรุงแหล่งกักเก็บน้ำ หรืออาคารประกอบ การขยายขีดความสามารถระบบโทรมาตร และการแจ้งเตือนภัย เป็นต้น
- การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ เพื่อแก้ไขสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การระบายน้ำ การจัดการพื้นที่น้ำท่วม/พื้นที่ชะลอน้ำ หรือเสริมประสิทธิภาพการระบายน้ำ เช่น การกำจัดผักตบชวา/วัชพืชน้ำ ขุดลอกคูคลอง ลำน้ำ แก้มลิง การรื้อย้ายฝายชำรุด ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ/เขื่อนป้องกันตลิ่ง เป็นต้น
- การเพิ่มน้ำต้นทุน โดยการจัดหาแหล่งน้ำรองรับน้ำส่วนเกินในช่วงฤดูฝน หรือแหล่งน้ำสำรอง เพื่อเสริมการบริหารจัดการน้ำในช่วงเวลาฤดูแล้งถัดไป เช่น สระ/อ่างเก็บน้ำ ระบบกระจายน้ำ ขุดเจาะบ่อบาดาล ขุดลอกสระ ปฏิบัติการฝนหลวง เป็นต้น
- การสร้างความมั่นคงด้านน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยการซ่อมแซม ปรับปรุง ระบบประปาที่มีอยู่เดิม และจัดหาระบบประปาใหม่ เช่น การเป่าล้างทำความสะอาดบ่อบาดาล ซ่อมแซมระบบประปา ก่อสร้างระบบประปา เป็นต้น
- การเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ โดยเตรียมความพร้อมเครื่องจักรเครื่องมือที่มีอยู่แล้ว ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และจัดหาเพิ่มเติมตามความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อรองรับการบริหารจัดการน้ำตามสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น ซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำ จัดหาเรือกู้ภัย เป็นต้น