นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ที่คาดว่าปีนี้จะมีการระบาดสูงกว่าปีที่ผ่านมามาก แต่ความรุนแรงของโรคลดลงมาก และกลายเป็นโรคประจำฤดูกาลแล้ว โดยระบุว่า
"เป็นอย่างที่คาดการณ์ทุกปี โควิด-19 ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายน จะระบาดสูงสุดหลังนักเรียนเปิดเทอม และจะไปเริ่มลดลงปลายเดือนมิถุนายน เข้าสู่เดือนกรกฎาคม ยอดผู้ป่วยในปีนี้น่าจะสูงกว่าปีที่แล้วมาก จากข้อมูลรายงานเข้าสู่กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นจำนวนผู้ป่วยที่รับไว้รักษาในโรงพยาบาล ไม่ใช่ยอดที่แท้จริง ตัวเลขจริงต่างกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มาก ทั้งที่ยอดผู้ป่วยโควิด-19 น่าจะมากกว่าไข้หวัดใหญ่อย่างมากเลยตอนนี้" นพ.ยง ระบุ
อย่างไรก็ตาม โควิด-19 ได้เปลี่ยนเป็นโรคประจำฤดูกาลแล้ว ทำให้ความรุนแรงของโรคลดน้อยลงอย่างมาก ดังจะเห็นยอดการเสียชีวิต ปีนี้ลดน้อยลงกว่าปีที่แล้วมาก ปีที่แล้วเสียชีวิต 220 คน ปีนี้น่าจะต่ำกว่าร้อยคน ถึงแม้ว่าจะมีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากกว่าปีที่แล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงรักษาตัวเองอยู่ที่บ้าน หรือบางคนไม่ได้ตรวจ การแพร่กระจายของโรคติดต่อได้ง่ายขึ้น การเฝ้าระวังป้องกันตนเองลดน้อยลง จึงทำให้มีการแพร่กระจายอย่างมากและรวดเร็ว
หลังจากนี้ เมื่อเปิดเรียนแล้ว 2-3 อาทิตย์ สิ่งที่ตามมาก็คือไข้หวัดใหญ่ จะระบาดตามมาพร้อมกับไข้หวัดธรรมดา หรือที่เรียกว่า rhinovirus ตามมาซ้ำเติมอีก จนกระทั่งถึงเดือนกรกฎาคม RSV จะมาหลังสุด โดย RSV จะมีช่วงระบาดเพียง 5 เดือนเท่านั้น ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนพฤศจิกายนก็จะครบวงรอบ
"สิ่งที่สำคัญพวกเราทุกคนต้องช่วยกัน ถึงแม้ความรุนแรงของโรคจะลดลงจากการที่เรามีภูมิต้านทานต่อโควิด-19 ทั้งการติดเชื้อมาแล้ว และเคยได้รับวัคซีนในอดีต ถึงแม้ว่าไวรัสจะเปลี่ยนสายพันธุ์ไปถึงตัวอักษร N แล้ว และก็จะเปลี่ยนสายพันธุ์ไปเรื่อย ๆ ทำให้เป็นแล้ว จึงเป็นอีกได้แต่ภูมิคุ้มกันดั้งเดิม เป็นสาเหตุที่ช่วยลดความรุนแรงของโรคลงไปเรื่อย ๆ และในที่สุด ก็จะเป็นโรคทางเดินหายใจธรรมดาโรคหนึ่ง" นพ.ยง ระบุ